เอเจนซีส์ – ชาวเมืองผู้ดีสุดปลื้มปีติ หลังสำนักพระราชวังบักกิงแฮมประกาศข่าวมหามงคลที่ระบุว่า อังกฤษมีองค์รัชทายาทลำดับที่ 3 โดยดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงพระประสูติกาลพระโอรสเมื่อคืนวันจันทร์ (22) และทั้งสองพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
พสกนิกรมากมายไปรวมตัวกันหน้าพระราชวังบักกิงแฮม ทันทีที่รู้ข่าวว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์คลอดพระโอรสที่มีพระพลานามัยสมบูรณ์และหนัก 3.8 กิโลกรัม
ทารกที่ยังไม่มีชื่อพระองค์นี้ถือเป็นรัชทายาทอันดับ 3 ของราชวงศ์อังกฤษ ต่อจากมกุฎราชกุมารชาร์ลส์ และพระโอรสองค์โต เจ้าชายวิลเลียม ซึ่งเป็นพระบิดาของเจ้าชายน้อย
“เราคงมีความสุขไปกว่านี้ไม่ได้” เจ้าชายวิลเลียม พระโอรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานา ตรัสโดยเจ้าชายวิลเลียมที่ทรงอยู่ระหว่างลาพักร้อนประจำปี จะทรงลาจากภารกิจนักบินค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากาศอังกฤษ เพื่อช่วยดูแลพระโอรสเป็นเวลา 2 สัปดาห์
เคต มิดเดิลตัน หรือดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงมีพระประสูติกาล 10 ชั่วโมงหลังจากเสด็จถึงปีกลินโดของโรงพยาบาลเซนต์แมรี กลางกรุงลอนดอน พร้อมกับเจ้าชายวิลเลียม พระสวามี ทั้งนี้ เจ้าหญิงไดอานาทรงให้กำเนิดเจ้าชายวิลเลียมในอาคารส่วนนี้เช่นเดียวกันเมื่อปี 1982
หลังจากที่พระโอรสน้อยประสูติ 4 ชั่วโมง สำนักพระราชวังเคนซิงตันออกแถลงการณ์ว่า “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงให้กำเนิดพระโอรสอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 16.24 น.(22.24 น.ตามเวลาไทย) วันจันทร์ (22) โดยที่ดยุกแห่งเคมบริดจ์ประทับอยู่ด้วย
หลังจากนั้นราชองครักษ์จึงนำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการไปติดที่ลานหน้าพระราชวังบักกิงแฮม เพื่อเป็นการประกาศว่า ทั้งเคตและพระโอรสทรงแข็งแรงดี
มาร์คัส เซ็ตเชลล์ สูตินรีแพทย์ประจำพระองค์สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ทำคลอดให้เจ้าหญิงเคต สำทับว่า “พระโอรสทรงมีพระสิริโฉมงดงามมาก”
ด้านสมเด็จพระราชินีตรัสว่า ทรงปีติอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทลำดับที่ 1 และคามิลลา พระชายา
สถานที่สำคัญของอังกฤษ เช่น ลอนดอนอาย และบีที ทาวเวอร์ ต่างพร้อมใจกันติดไฟสีแดง ขาว และน้ำเงิน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองพระประสูติกาลของพระโอรส โดยจะมีการยิงสลุตทั่วลอนดอนในวันอังคาร (23)
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับประกาศข่าวนี้บนหน้าหนึ่งอย่างครึกโครม หลายฉบับพาดหัวด้วยคำสั้นๆ ว่า “พระโอรส”
การประสูติของพระโอรสน้อยและพระราชวงศ์อังกฤษรุ่นใหม่เป็นประเด็นร้อน นับตั้งแต่เจ้าชายวิลเลียมทรงอภิเษกสมรสกับเคต ในปี 2011 หลังจากบ่มเพาะความรักกันมานานถึงสิบปี
ทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าช่วยฟื้น “เดอะ เฟิร์ม” หรือราชวงศ์อังกฤษ ภายหลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวมาหลายทศวรรษ รวมทั้งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา ในอุบัติเหตุรถชนอย่างมีเงื่อนงำเมื่อปี 1997
สำนักพระราชวังระบุว่า จะประกาศพระนามพระโอรส ซึ่งจะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเคมบริดจ์ ในภายหลัง
ด้านบริษัทรับพนันเผยว่า พระนามที่ได้รับความนิยมสำหรับว่าที่กษัตริย์อังกฤษคือ จอร์จ และเจมส์
ขณะเดียวกัน โหรอังกฤษระบุว่า เจ้าชายน้อยทรงอยู่ในราศีกรกฎ เช่นเดียวกับพระบิดาและพระอัยยิกา บ่งชี้ว่า จะทรงเป็นผู้นำที่เข้มแข็งในอนาคต
พระโอรสน้อยทรงประสูติช้ากว่าที่คนมากมายคาดไว้ กระตุ้นให้เกิดการคาดเดาต่างๆ นานา รวมถึงความร้อนรนของสื่อนับร้อยคนจากทั่วโลกที่เฝ้ารออยู่นอกโรงพยาบาลมานานถึง 3 สัปดาห์
นอกจากนี้ พระโอรสน้อยยังทำให้อังกฤษไม่ต้องเร่งรีบร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ใน 16 ชาติเครือจักรภพ ซึ่งกำหนดว่า พระธิดาของสมาชิกราชวงศ์ไม่จำเป็นต้องสละสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์ ให้แก่พระอนุชา
ชาวอังกฤษที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ ต่างตื่นเต้นยินดีกับเจ้าชายองค์ใหม่ ซึ่งเป็นพระปนัดดาองค์ที่ 3 ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แถลงจากหน้าทำเนียบบนถนนดาวนิงสตรีทว่า การประสูติของเจ้าชายน้อยเป็น “ข่าวดีอย่างยิ่ง” และเป็นช่วงเวลาสำคัญแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับอังกฤษ หนึ่งในชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก
ที่สหรัฐฯ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และภรรยา มิเชลล์ แสดงความปรารถนาดีให้เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคต ทรงพระเกษมสำราญกับบทบาทพระบิดาและพระมารดา และเสริมว่า พระโอรสน้อยทรงประสูติในช่วงเวลาที่เป็นโอกาสอันดีสำหรับอังกฤษและอเมริกา
ด้านนายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์ แห่งออสเตรเลีย กล่าวว่านี่เป็นวันแห่งความสุขอย่างแท้จริง สำหรับมวลมิตรของออสเตรเลียในอังกฤษและเครือจักรภพ และย้อนว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงแสดงความเห็นพระทัยอย่างลึกซึ้งต่อครอบครัวที่สูญเสียทุกอย่างในเหตุการณ์ไฟป่าในวิกตอเรียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009
ทั้งนี้ มีการประกาศข่าวว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงพระครรภ์ในเดือนธันวาคม หลังจากทรงเข้ารับการรักษาพระอาการแพ้อย่างรุนแรง ทว่า ข่าวนี้ถูกกลบจากข่าวนางพยาบาลของโรงพยาบาลดังกล่าวฆ่าตัวตาย หลังรู้ว่าถูกผู้จัดการรายการวิทยุออสเตรเลีย 2 คน แอบอ้างตัวว่า เป็นพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เพื่อสืบข่าวอาการของเจ้าหญิงเคต