เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - รัฐบาลบราซิลออกโครงการดึงดูดแพทย์จากต่างประเทศนับหมื่นคนเมื่อวานนี้ (8) เพื่อเติมเต็มตำแหน่งว่างในระบบสาธารณสุข โดยการดำเนินการครั้งนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ประกอบอาชีพทางด้านสาธารณสุขในบราซิลจำนวนมาก
การปรับปรุงบริการด้านสาธารณสุขเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญ ของชาวบราซิลเรือนแสนที่ออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.)
ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ แถลงว่าการเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ในรูปของการประกาศใช้กฤษฎีกาประธานาธิบดี จะสร้างตำแหน่งงานด้านแพทย์จำนวน 10,000 ตำแหน่งและงบประมาณในการลงทุนราว 1,270 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 39,370 ล้านบาท)
รัฐบาลระบุว่าตำแหน่งแพทย์เหล่านี้ซึ่งกำหนดให้ต่อสัญญาจ้างทุก 3 ปี และมีค่าตอบแทน 4,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 139,500 บาท) ต่อเดือน จะสงวนไว้ให้แพทย์ชาวบราซิลเป็นหลัก และหากยังมีตำแหน่งว่างอยู่ก็จะคัดเลือกแพทย์ชาวต่างชาติเข้ามาบรรจุ
ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เริ่มงานในกลางเดือนกันยายน โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้ปฏิบัติงานตามถิ่นทุรกันดารและเขตรอบนอกของเมืองใหญ่ๆ ที่ผู้อยู่อาศัยมีฐานะยากจน
“ชาวบราซิลทุกคนต้องได้รับการรักษาจากแพทย์” รูสเซฟฟ์กล่าว “บราซิลกำลังขาดแคลนแพทย์ หากจำนวนแพทย์ในบราซิลมีไม่เพียงพอ เราจะมองหาแพทย์ดีๆ จากที่อื่น”
แพทย์ต่างชาติที่จะสมัครได้ต้องมาจากประเทศที่มีอัตราส่วนของแพทย์มากกว่า 1.8 ต่อประชากร 1,000 คน ได้แก่เป็นต้นว่า สเปน โปรตุเกส อาร์เจนตินา และคิวบา
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์รายวันโฟลฮาเดเซาเปาลู รายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่ารัฐบาลได้ยกเลิกแผนที่จะนำแพทย์คิวบาเรือนหมื่นคนเข้ามาทำงานในบราซิล และหันไปสนใจแพทย์จากสเปน และโปรตุเกสแทน แต่ไม่มีคำชี้แจงถึงสาเหตุ
“การดำเนินการในครั้งนี้เป็นมาตรการฉุกเฉิน ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนและจริงจัง” รูสเซฟฟ์แถลง “ไม่มีใครต้องกลัว ดิฉันจะไม่มีวันปล่อยให้แพทย์บราซิลต้องตกงาน หรือปล่อยให้สุขภาพของประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง”
กระทรวงสาธารณสุขชี้แจงว่าทั่วบราซิลกำลังขาดแคลนแพทย์ถึง 54,000 คน
ทว่า สมาคมแพทย์บราซิลยังคงออกมาแถลงโจมตีแผนการดึงแพทย์จากต่างประเทศเมื่อวานนี้ (8) โดยเน้นย้ำว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากการขาดแคลนแพทย์แต่เป็นการจัดการที่ไร้ระบบ และการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของหน่วยสาธารณสุข
แพทย์ พยาบาล และผู้ประกอบอาชีพด้านสาธารณสุขอื่นๆ ได้เคยเข้าร่วมในการประท้วงในท้องถนนเมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อโครงการดังกล่าวของรัฐบาล