บราซิลนัดประท้วงใหญ่อีก รอบชิงแชมป์คอนเฟดฯ คืนนี้ ขณะคะแนนนิยมของปธน.ตกฮวบ

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - การแข่งขันฟุตบอลศึกคอนเฟเดอเรชันส์คัพรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติบราซิลและสเปน ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ในวันอาทิตย์ (30) ทำท่าจะเผชิญการประท้วงอีก ขณะที่คะแนนความนิยมของ ดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีของบราซิลก็ลดฮวบ นับแต่มีเหตุประชาชนทั่วประเทศออกมาประท้วงตามท้องถนน ผลสำรวจความคิดเห็นระบุเมื่อวันเสาร์ (29)

ผลสำรวจความคิดเห็นของดาตาโฟลฮาชี้ว่า คะแนนความนิยมในตัวรูสเซฟฟ์ลดต่ำลงจาก 57 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 6–7มิถุนายน เหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นในเวลานี้

รายงานข่าวระบุว่าเธอไม่ไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ (30) เพื่อหลบเลี่ยงการถูกโห่ขับไล่ให้อับอาย

แต่โฆษกรัฐบาลโต้แย้งว่า รูสเซฟฟ์ไม่ได้มีกำหนดการเข้าชมการแข่งขันนัดนี้ตั้งแต่แรกแล้ว

เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ประธานาธิบดีถูกกลุ่มผู้ประท้วงโห่ไล่ขณะที่เธอกำลังเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันศึกฟุตบอลนี้ที่บราซิเลีย

ทั้งนี้ ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของดาตาโฟลระบุว่า มีประชาชนที่คิดว่ารัฐบาลของเธอทำงานแย่และเลวร้ายเพิ่มขึ้นจาก 9 เปอร์เซ็นต์เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ทั้งๆ ที่ คะแนนนิยมของรูสเซฟฟ์ในการสำรวจครั้งก่อนหน้านี้ คือ เมื่อเดือนมีนาคมยังอยู่ในระดับ 65 เปอร์เซ็นต์

ในเดือนนี้เรทติ้งของประธานาธิบดีหญิงลดลงทั่วทั้งประเทศ จากผลการสำรวจตัวอย่างประชาชนทั้งหมด 4,717 คนใน 196 เมือง

ผลการสำรวจความคิดเห็นครั้งล่าสุดที่มีค่าความแปรปรวน 2 เปอร์เซนต์ ส่งสัญญาณเตือนรูสเซฟฟ์ และพรรคแรงงานฝ่ายซ้ายของเธอ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนตุลาคม 2014

“เราคาดหมายว่าคะแนนจะตกฮวบอย่างนี้อยู่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาสำคัญของรัฐบาล ประธานาธิบดีอ่อนแอลงในขณะที่เศรษฐกิจก็ไม่ดี” อองเดร ซีซาร์ นักวิเคราะห์ของปรอสเปคติวา บริษัทให้คำปรึกษาที่มีฐานในบราซิเลียกล่าว

“ประธานาธิบดีใจเย็นมาก เธอยอมรับว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นและเชื่อว่าทางออก คือ การเดินหน้าทำงาน” สำนักข่าวเอเจนเซีย บราซิล รายงานโดยอ้างถึงคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสาร เปาลู เบอร์นาโด

“มันเป็นสัญญาณเตือนภัย และสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า ถึงเวลาที่เธอจะต้องจริงจังมากกว่านี้” อลอยซิโอ นูนส์ เฟอร์เรรา หัวหน้าวุฒิสภา พรรคสังคมประชาธิปไตยบราซิล ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน กล่าวกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์รายวันโอ โกลโบ

ชาวบราซิลเรือนแสนที่ชุมนุมกันตามท้องถนนต่างเรียกร้องให้ปัญหาคอร์รัปชันที่กำลังลุกลามในหมู่นักการเมืองหมดสิ้นไปเสียที

การประท้วงโดยส่วนใหญ่ดำเนินไปอย่างสงบ แต่ก็มีบางครั้งที่เกิดความเสียหายจากเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเหตุผู้ประท้วงทำลายทรัพย์สินของรัฐ

การประท้วงเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการแข่งขันฟุตบอลศึกฟุตบอลคอนเฟเดอเรชันส์คัพ ถือเป็นการซ้อมใหญ่ของการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่บราซิลจะเป็นเจ้าภาพอีกเช่นกันในปีหน้า

ในวันอาทิตย์ (30) บราซิลพบกับสเปนในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่สนามมาราคานา สนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของเมืองริโอ เดอ จาเนโร

ผู้ประท้วงจำนวนมากวางแผนจัดการชุมนุมขึ้นทั่วทั้งเมืองริโอ เดอ จาเนโร ในวันอาทิตย์ (30) จากนั้นพวกเขาจะไปบรรจบกันที่สนามมาราคานา

ทางด้านเจ้าหน้าที่มีการเสริมกำลังตำรวจราว 6,000 คนรอบสนามกีฬาและถนนทางเข้าจะถูกตรวจตราอย่างเข้มงวด

เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือให้บรรดาแฟนบอลใช้บริการรถสาธารณะในการเดินทางมาชมการแข่งขัน

สำหรับเมืองอื่นๆ พบว่ามีการประท้วงที่เมืองเบโล ฮอริซอนเต้ ที่ซึ่งสภานิติบัญญัติของรัฐเห็นชอบให้มีการลดราคาค่าโดยสารรถสาธารณะลงเมื่อวันเสาร์ (29) แต่กลุ่มผู้ประท้วงดูเหมือนจะยังไม่พอใจกับราคาที่ลดแล้ว และได้เข้ายึดครองห้องประชุมหลังจากต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางด้านรัฐปีเอาอี ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของบราซิล พบกลุ่มผู้ประท้วงเผารสบัส 2 คัน ในขณะที่มีการปิดถนนในหลายๆ รัฐ สื่อมวลชนระบุ

เมื่อวันศุกร์ (28) รูสเซฟฟ์เร่งหาการสนับสนุนที่เคยสัญญาว่าจะปฏิรูปทางการเมือง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความวุ่นวายทางสังคมครั้งใหญ่ที่สุดที่ไม่เกิดขึ้นมากว่า 20 ปีแล้ว

ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอเข้าประชุมร่วมกับสมาชิกของภาคประชาสังคม เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่สหภาพ ตลอดจนบรรดาผู้นำพรรคเพื่อผลักดันการลงประชามติเพื่อการปฏิรูปทางการเมืองตามที่ได้เสนอไป โดยเธอหวังที่จะส่งเรื่องให้สภาพิจารณาอย่างเร็วที่สุดในวันอังคาร (2)

เจ้าหน้าที่ของไฮเออร์ อิเล็กชัน ทริบูนัลระบุว่าอาจมีค่าใช้จ่ายในการลงประชามติเกือบ 250 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,750 ล้านบาท)

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้มีการปฏิรูปทางการเมืองเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในปีหน้า ซึ่งรูสเซฟฟ์ต้องการได้รับเลือกอีกสมัย

ในขณะเดียวกันรัฐสภากำลังเร่งรีบผ่านร่างกฎหมายที่เพิ่มบทลงโทษของพวกทุจริตคอร์รัปชันให้รุนแรงมากขึ้น

เนธาน โดนาดอน สมาชิกรัฐสภาที่ถูกตัดสินจำคุก 13 ปีในปี 2010 ในข้อหาฉ้อโกง ได้ยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันศุกร์ (28) ภายหลังที่ศาลสูงสุดมีคำสั่งให้เขาถูกจำคุกโดยทันที นับเป็นคำสั่งเช่นนี้ครั้งแรกในรอบ 25 ปี

ในส่วนของสหภาพแรงงานของบราซิลก็ได้ประกาศนัดหมายที่จะหยุดงานและจัดการประท้วงขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม เพื่อเป็นการสร้างแรงกดดันรัฐบาล