ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์แห่งบราซิล หารือกับเหล่าสหภาพแรงงาน ขณะที่เธอกำลังวางกรอบรายละเอียดการจัดทำประชามติปฏิรูปการเมืองตามหลังการประท้วงบนท้องถนนยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามสถานการณ์วันพุธ(26)ยังคุกรุ่นโดยยังมีการประท้วงตามเมืองต่างๆหลายสิบเมือง จนต้องเสริมกำลังทหารสนับสนุนตำรวจรับมือความเหตุร้ายใดๆ
5 สหภาพแรงงานยักษ์ใหญ่ของบราซิล ประกาศนัดผละงานและชุมนุมประท้วงในวันที่ 11 กรกฏาคม ขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับระลอกคลื่นแห่งความไม่สงบ อันสะท้อนถึงความขุ่นแค้นของประชาชนต่อการบริการทางสังคมอันย่ำแย่และปัญหาคอรัปชันอันครึกโครมในหมู่นักการเมือง
ก่อนหน้าการหารือ แกนนำสหภาพแรงานบอกว่าพวกเขาจะเสนอให้นางรูสเซฟฟ์ พิจารณาลดชั่วโมงการทำงานให้สั้นลง ปรับปรุงข้อกำหนดเบี้ยบำนาญใหม่และลงทุนด้านสาธารณสุขกับการศึกษาให้มากยิ่งขึ้น ตามคำเรียกร้องของผู้ชุมนุมนับล้านคนที่ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนทั่วบราซิลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ความขุ่นแค้นของประชาชนต่อการบริการสาธารณะของรัฐในชาติเศรษฐกิจหมายเลข 7 ของโลกและการละเลงงบประมาณมหาศาลจัดศึกคอนเฟเดอเรชันส์คัพกับศึกฟุตบอลโลก 2014 จุดชนวนให้ชาวบราซิล หลั่งไหลขึ้นไปอยู่บนท้องถนนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง
จากแรงกดดันดังกล่าว เป็นผลให้นางรูสเซฟฟ์ ให้คำมั่นว่ารัฐบาลฝ่ายซ้ายของเธอจะจัดทำประชามติปฏิรูปการเมือง จัดสรรงบประมาณลงทุนและปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ และเรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษแก่บุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานคอรัปชัน อย่างไรก็ตามเธอต้องถอยกลับแนวคิดจัดทำประชามติตั้งสมัชชารัฐธรรมนูญด้านการปฏิรูป หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากส.ส.และนักกฎหมาย
เจ้าหน้าที่เผยว่านางรูสเซฟฟ์ จะปรึกษากับเหล่าพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรกับพรรคฝ่ายซ้ายของเธอ รวมไปถึงพรรคฝ่ายค้าน เพื่อประดิษฐ์คำถามต่างๆที่สัมพันธ์กับการปฏิรูปการเมือง ที่จะใช้สำหรับให้ประชาชนลงประชามติ
5 สหภาพแรงงานยักษ์ใหญ่ของบราซิล ประกาศนัดผละงานและชุมนุมประท้วงในวันที่ 11 กรกฏาคม ขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับระลอกคลื่นแห่งความไม่สงบ อันสะท้อนถึงความขุ่นแค้นของประชาชนต่อการบริการทางสังคมอันย่ำแย่และปัญหาคอรัปชันอันครึกโครมในหมู่นักการเมือง
ก่อนหน้าการหารือ แกนนำสหภาพแรงานบอกว่าพวกเขาจะเสนอให้นางรูสเซฟฟ์ พิจารณาลดชั่วโมงการทำงานให้สั้นลง ปรับปรุงข้อกำหนดเบี้ยบำนาญใหม่และลงทุนด้านสาธารณสุขกับการศึกษาให้มากยิ่งขึ้น ตามคำเรียกร้องของผู้ชุมนุมนับล้านคนที่ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนทั่วบราซิลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ความขุ่นแค้นของประชาชนต่อการบริการสาธารณะของรัฐในชาติเศรษฐกิจหมายเลข 7 ของโลกและการละเลงงบประมาณมหาศาลจัดศึกคอนเฟเดอเรชันส์คัพกับศึกฟุตบอลโลก 2014 จุดชนวนให้ชาวบราซิล หลั่งไหลขึ้นไปอยู่บนท้องถนนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง
จากแรงกดดันดังกล่าว เป็นผลให้นางรูสเซฟฟ์ ให้คำมั่นว่ารัฐบาลฝ่ายซ้ายของเธอจะจัดทำประชามติปฏิรูปการเมือง จัดสรรงบประมาณลงทุนและปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ และเรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษแก่บุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานคอรัปชัน อย่างไรก็ตามเธอต้องถอยกลับแนวคิดจัดทำประชามติตั้งสมัชชารัฐธรรมนูญด้านการปฏิรูป หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากส.ส.และนักกฎหมาย
เจ้าหน้าที่เผยว่านางรูสเซฟฟ์ จะปรึกษากับเหล่าพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรกับพรรคฝ่ายซ้ายของเธอ รวมไปถึงพรรคฝ่ายค้าน เพื่อประดิษฐ์คำถามต่างๆที่สัมพันธ์กับการปฏิรูปการเมือง ที่จะใช้สำหรับให้ประชาชนลงประชามติ