เอเอฟพี - รัฐบาลบราซิลสั่งสอบข่าวลือที่ว่าพลเมืองแซมบ้าตกเป็นเหยื่อโปรแกรมสอดแนมของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ ออกมาเตือนวานนี้(8)ว่า หากวอชิงตันทำเช่นนั้นจริงอาจเข้าข่าย “ละเมิดอธิปไตย” ของบราซิล
หนังสือพิมพ์รายวัน โอ โกลโบ ของบราซิล รายงานเมื่อวันอาทิตย์(7)ว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ล้วงข้อมูลการสื่อสารของชาวบราซิลที่อาศัยอยู่ในอเมริกา รวมไปถึงบริษัทห้างร้านและพลเมืองบราซิลที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ โดยสื่อฉบับนี้อ้างเอกสารลับที่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอ เป็นผู้เผยแพร่
ประธานาธิบดีหญิงเมืองแซมบ้ายอมรับว่า ได้สั่งการให้องค์การโทรคมนาคมแห่งชาติและสำนักงานตำรวจกลาง เร่งตรวจสอบข่าวดังกล่าวแล้ว
“การกระทำเช่นนี้อาจเข้าข่ายละเมิดอธิปไตยและสิทธิมนุษยชน... แต่เราต้องสืบหาความจริงอย่างไม่รีบร้อน... รัฐบาลบราซิลมีจุดยืนชัดเจนว่า เราไม่เห็นด้วยกับการก้าวก่ายข้อมูลส่วนบุคคลในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะในบราซิลเอง หรือในประเทศอื่นๆ” รูสเซฟฟ์ ให้สัมภาษณ์
เอกสารลับที่ สโนว์เดน เปิดเผยระบุว่า สหรัฐฯใช้โปรแกรมสอดแนมสืบความลับของสำนักงานสหภาพยุโรปในวอชิงตันและนิวยอร์ก รวมไปถึงประเทศยุโรปอื่นๆ เช่น เยอรมนี เป็นต้น
โอ โกลโบ ยังรายงานต่อเมื่อวานนี้(8)ว่า เอ็นเอสเอ และสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เคยใช้กรุงบราซิเลียเป็นฐานดาวเทียมสอดแนมอย่างน้อยจนถึงปี 2002 โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Primary Fornsat Collection Operations” ที่ เอ็นเอสเอ ใช้สอดแนมการรับส่งข้อมูลของดาวเทียมประเทศอื่นๆ
เปาลู เบอร์นาร์โด รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารบราซิล ยอมรับว่า ตน “ไม่มีข้อข้องใจใดๆ” ในความถูกต้องของข่าวนี้ และจะตรวจสอบให้แน่ชัดว่า กระบวนการสอดแนมเกิดขึ้นในลักษณะใดและเมื่อใดบ้าง
ด้าน เจน พีซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า วอชิงตันได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่บราซิลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเหล่านี้แล้ว แต่ปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียด โดยกล่าวเพียงว่า “เรามีแผนที่จะเจรจาหารือกับรัฐบาลบราซิลผ่านช่องทางการทูตต่อไป แต่คงไม่เปิดเผยเนื้อหาของการสนทนาเรา”
รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารบราซิล เผยว่า บราซิลจะใช้กรณีนี้เรียกร้องให้นานาชาติจัดตั้งองค์กรพหุภาคีเพื่อควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ต พร้อมระบุว่า ตนไม่เชื่อว่าบริษัทบราซิลจะ “สมรู้ร่วมคิด” กับ เอ็นเอสเอ