xs
xsm
sm
md
lg

ประท้วงไปเฮไป ขณะบราซิลถล่ม “สเปน” ราบคาบ ในรอบชิงคอนเฟดฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ขณะที่ด้านในสนามมีการแข่งขันฟุตบอล ด้านนอกก็มีกลุ่มผู้ประท้วงกันอยู่ วันอาทิตย์ (30) ที่นครริโอเดอจาเนโร จึงเป็นวันที่ดูขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ในระหว่างที่มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณใกล้สนามมาราคานาอันมีชื่อเสียง เจ้าภาพบราซิลก็คว้าแชมป์ติดกัน 3 สมัยซ้อนในศึกคอนเฟเดอเรชันส์คัพ ด้วยการถล่มสเปนไป 3-0

ภายในสนามฟุตบอลเต็มไปด้วยเสียงกู่ร้องอย่างยินดี ขณะที่ เฟร็ด และเนย์มาร์ พาทีมชาติแซมบ้าขึ้นนำไป 2 ประตูต่อ 0 ในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่เฟร็ดจะยิงลูกที่ 3 ตบท้าย

ชัยชนะของเจ้าบ้านสร้างความปลาบปลื้มให้ฝูงชนแฟนบอล 78,000 คนที่สวมเสื้อยืดสีเขียวเหลืองเซเลเซา

นอกจากนี้ มันยังช่วยปลุกกระแสความรักชาติขึ้นมาภายหลังเหตุความวุ่นวายทางสังคมที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งปะทุขึ้นเพราะประชาชนชนไม่พอใจการให้บริการรถสาธารณะ และการสูญเสียงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อเป็นเจ้าภาพศึกคอนเฟเดอเรชันส์คัพ ตลอดจนฟุตบอลโลกในปีหน้า

ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันได้ส่งข้อความแสดงความยินดีให้แก่เหล่านักฟุตบอลทีมชาติบราซิลเพื่อยินดีกับชัยชนะ ได้ครองถ้วยใบนี้เป็นครั้งที่ 4

“ในการแข่งขันซึ่งเป็นที่น่าจดจำนัดนี้ นักกีฬาของเราได้แสดงออกถึงความสนุกสนาน ความสร้างสรรค์ ความร่วมแรงร่วมใจ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเอาชนะใจชาวบราซิลทุกคน และเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมมาก วันนี้ดิฉันขอร่วมเฉลิมฉลองกับชาวบราซิลแด่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้” รูสเซฟฟ์ ผู้ซึ่งคะแนนความนิยมตกฮวบตั้งแต่เริ่มเกิดการประท้วงแถลง

เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว เธอและเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ถูกกลุ่มผู้ประท้วงส่งเสียงโห่ขับไล่ระหว่างเข้าชมการแข่งขันนัดเปิดสนามที่บราซิเลีย

ในตอนเช้าของวันอาทิตย์ (30) ผู้ชุมนุมหลายพันคนได้เคลื่อนขบวนไปที่สนามมาราคานา ซึ่งการประท้วงโดยส่วนใหญ่ดำเนินไปโดยสงบ

ถึงแม้ผู้ประท้วงบางส่วนตะโกนว่า “จะไม่มีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ” โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้ปล่อยบอลลูน 20 ลูกที่ติดโปสเตอร์ขนาดมหึมาที่มีข้อความว่า “ฟีฟ่าออกไป” ขึ้นสู่ท้องฟ้า

อย่างไรก็ตามใน ในเวลาต่อมามีกลุ่มผู้ประท้วงที่สวมหมวกปิดหน้าจำนวนไม่มาก ซึ่งบางคนพกไขควงและหนังสติ๊กมาเป็นอาวุธ ได้วางเพลิงที่ถนนและขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงตอบโต้ด้วยการระดมยิงแก๊สน้ำตาและสาดกระสุนยางใส่ ขณะที่มีเฮลิคอปเตอร์ตำรวจบินวนอยู่เบื้องบน

ผู้ประท้วงวิ่งกระจัดกระจายไปทุกทิศทางภายใต้หมอกควันแก๊สน้ำตา แต่ก็ไม่พ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งดักรออยู่ทุกมุม

“โชคไม่ดีเหตุรุนแรงปะทุขึ้นเพราะมีผู้ประท้วงขว้างระเบิดทำเองและก้อนหินใส่ตำรวจ” เฮนริก กูเอลเบอร์ จากศูนย์ปกป้องสิทธิมนุษยชน บอกผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ จี 1

กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตอบรับกระแสเรียกร้องผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ให้ออกมารวมตัวกันเพื่อสนับสนุนทีมชาติบราซิล แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการประท้วงความบกพร่องของระบบบริการสาธารณะของประเทศไปในตัว ซึ่งประเด็นหลังนี้เป็นชนวนเหตุสำคัญที่จุดประกายให้มีการประท้วงนาน 2 สัปดาห์ ซึ่งสั่นคลอนประเทศยักษ์ใหญ่ในอเมริกาใต้แห่งนี้

ทางการแซมบ้า ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 11,000 คน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับแฟนบอล 78,000 คนที่สนามมาราคานา ในระหว่างการแข่งขันนัดปิดม่านของศึกคอนเฟเดอเรชันส์คัพ ซึ่งถูกโจมตีด้วยเหตุความไม่สงบที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน โดยมีประชาชนบราซิลออกมาชุมนุมที่ท้องถนนรวมแล้วกว่า 1.5 ล้านคนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

“เราต้องการต่อต้านการแปรรูปสนามฟุตบอลแห่งนี้เป็นสมบัติของเอกชน รวมไปถึงการเวนคืนที่ดินเพื่อจัดฟุตบอลโลกปี 2014 และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (ฤดูร้อน ปี 2016 ที่เมืองริโอเดอจาเนโร) รีนาโต โกเซนติโน โฆษกของผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งซึ่งสนับสนุนให้มีการประท้วงเมื่อวันเสาร์ (29) กล่าว

นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนมาชุมนุมกันที่อำเภอไทจูกา ซึ่งอยู่ห่างจากสนามมาราคานาราว 1 ไมล์ (ประมาณ1.6 กิโลเมตร) พวกเขาทั้งเต้นและตะโกนว่า “ฟีฟ่าต้องจ่ายค่ารถให้พวกเรา” หรือ “สนามมาราคานาเป็นของเรา”

“ผมมาที่นี่ด้วยความรักชาติ โดยอยากให้รัฐบาลอุดหนุนระบบการศึกษา สุขภาพ และการคมนาคม และเสียงบประมาณให้ฟุตบอลน้อยลง” เนลสัน กูโต ชายวัย 69 ปีซึ่งสวมเสื้อสีเขียวและเหลืองเหมือนธงชาติบราซิลกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเนติบัณฑิตยสภา อัยการแผ่นดิน และอัยการสูงสุด มาตรวจสอบการดำเนินการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ความโหดร้ายป่าเถื่อนในการชุมนุมครั้งก่อนๆ

ผู้ประท้วงจำนวนมากบ่นว่า รัฐบาลเสียงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ในการสร้างสนามฟุตบอลใหม่เอี่ยมถึง 12 แห่ง เพื่อเตรียมตัวเจ้าภาพฟุตบอลโลก ในขณะที่การคมนาคม และการรักษาพยาบาลยังคงไม่ได้รับเงินสนับสนุน

แม้ว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคม ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเมืองเซาเปาลู เมื่อต้นเดือนมิถุนายน โดยมีชนวนเหตุมาจากการขึ้นราคาค่ารถโดยสารสาธารณะ แต่ผลการสำรวจความคิดเห็นกลับชี้ว่า มากกว่า 2 ใน 3 ของชาวบราซิลสนับสนุนให้ประเทศเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก หลังจากที่เคยเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1950

บราซิลเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันฟุตบอลโลก ด้วยชัยชนะถึง 5 ครั้ง

กำลังโหลดความคิดเห็น