(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
Xinjiang death toll higher than reported
By Radio Free Asia
28/06/2013
จำนวนผู้เสียชีวิตจากความไม่สงบทางชาติพันธุ์ในเขตซินเกียง (ซินเจียง) ที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน อาจจะมีสูงถึง 46 คน เยอะกว่าที่รายงานกันในตอนแรกๆ มากทีเดียว ทั้งนี้ตามคำบอกเล่าของพวกประจักษ์พยาน ซึ่งระบุด้วยว่าพบเห็นศพของบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เป็นชาวฮั่น ที่อาจจะมีถึง 20 คนอยู่ในบรรดาผู้ตายเหล่านี้ ทางด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนมีความเห็นว่า สถานการณ์ในเขตปกครองตนเองเทียบเท่ามณฑลแห่งนี้อยู่ในภาวะตึงเครียด เนื่องจากการที่ชาวฮั่นซึ่งเป็นชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ในแดนมังกร กำลังไหลทะลักเข้าไปตั้งถิ่นฐานกันอย่างมากมายขึ้นทุกที ขณะที่ชาวมุสลิมชนชาติอุยกูร์ซึ่งเป็นคนพื้นถิ่นกำลังถูกจับกุมคุมขังด้วยข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย ที่ยัดเยียดให้กันอย่างเหมารวมชนิดไม่มีการจำแนกแยกแยะ
ความรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ที่ตำบลห่างไกลแห่งหนึ่งภายในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง (ซินเกียง) ซึ่งบังเกิดความยุ่งยากเรื่อยมานั้น เป็นที่เชื่อกันว่ามีความสาหัสร้ายแรงยิ่งกว่าที่ปรากฏอยู่ในรายงานข่าวของทางการ โดยที่มีผู้ถูกสังหารเสียชีวิตไปอย่างน้อย 46 คน ภายหลังเกิดเหตุโจมตีสถานีตำรวจและสถานที่ทำการของรัฐบาล โดยฝีมือของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์อุยกูร์ (Uyghur) ผู้ขุ่นเคืองโกรธเกรี้ยว ทั้งนี้ตามการบอกเล่าของพวกเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนนั้น รายงานข่าวโดยอ้างพวกเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ระบุว่า มีผู้ถูกฆ่าตายไป 27 คนใน “เหตุการณ์การก่อการร้าย” เมื่อวันพุธ(26มิ.ย.) ซึ่งจุดชนวนขึ้นด้วยการบุกโจมตีสถานีตำรวจหลายแห่งตลอดจนสถานที่ทำการของรัฐบาลแห่งอื่นๆ ของ “ฝูงชนที่ใช้มีดเป็นอาวุธ” ในอำเภอ ปีชาน (Pichan county ภาษาจีนเรียกว่าอำเภอซานซาน Shanshan)
แต่ตามการบอกเล่าที่วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาอุยกูร์ (Radio Free Asia's Uyghur Service) ได้ทราบมาจากพวกเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ตลอดจน “อิหม่าม” ผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้อาวุโสชาวมุสลิมท้องถิ่นที่คอยช่วยเหลือในการทำพิธีฝังศพบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยซึ่งสิ้นชีพไปในการปะทะกันระลอกนี้ มีผู้ถูกสังหารไปอย่างน้อย 46 คนทีเดียวในความรุนแรงที่เกิดขึ้นในตำบลลุกชุน (Lukchun township) ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์อุยกูร์ที่เป็นมุสลิม
อิหม่าม อุรายิม หะยี (Urayim Haji) ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 62 ปี เล่าว่าเมื่อดูจากจำนวนผ้าห่อศพที่ใช้ในพิธีฝังศพแล้ว เขาเชื่อว่ามีบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งประกอบด้วยตำรวจ, ผู้ช่วยตำรวจ, และยามรักษาความปลอดภัย รวมแล้วอย่างน้อยที่สุด 35 คน เสียชีวิตไปในเหตุการณ์คราวนี้
“ผมเห็นและก็นับผ้าสำหรับห่อศพเพื่อนำไปฝังได้รวมทั้งหมด 35 ชิ้นด้วยกัน ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าตัวเลขผู้ตายในทางฝ่ายเจ้าหน้าที่คือ 35 คน” อุรายิม หะยี บอก และแจกแจงด้วยว่า ในจำนวนนี้ประมาณ 15 ถึง 20 คนเป็นชาวฮั่น (Han) ที่เป็นชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ของแดนมังกร
อุรายิม หะยิน กล่าวต่อไปว่า ผู้เข้าโจมตี 11 คนที่ถูกยิงและถูกฆ่าโดยฝ่ายตำรวจนั้น ยังไม่ได้ถูกนำไปฝังหลังเกิดความรุนแรงคราวนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งทีเดียว ภายหลังเหตุความไม่สงบในเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเกียง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2009 ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้ถูกสังหารไปร่วมๆ 200 คน
“ตำรวจยังคงเก็บศพพวกเขาเอาไว้ ทางพวกเราก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าพวกเขาจะคืนศพเหล่านี้ให้แก่ครอบครัวไหม” เขากล่าวต่อ
ทางพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่า ผู้เข้าโจมตีทั้ง 11 คนเป็นชาวอุยกูร์ แต่พวกเขาไม่ได้ระบุถึงเหตุผลซึ่งทำให้คนเหล่านี้กระทำการเช่นนี้
** การปราบปราม **
พวกนักเคลื่อนไหวชาวอุยกูร์นั้น กล่าวประณามโจมตีรัฐบาลจีนว่า “ทำการปราบปรามและยั่วยุ” ชุมชนชาวอุยกูร์อยู่เสมอ จึงทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นมา ขณะที่ตามรายงานข่าวของซินหวา พวกผู้กระทำการได้บุกเข้าโจมตีสถานีตำรวจหลายแห่ง, อาคารรัฐบาลหลังหนึ่ง, และสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง และได้ฟันแทงเหยื่อผู้เคราะห์หลายรายจากนั้นจึงจุดไฟเผา รวมแล้วฆ่าคนตายไป 17 คนในจำนวนนี้มี 9 คนที่เป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปลอดภัย ก่อนที่พวกเจ้าหน้าที่จะยิงและสังหารคนเหล่านี้
ซินเกียงนั้นเป็นถิ่นฐานภูมิลำเนาของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์อุยกูร์ประมาณ 9 ล้านคน ผู้ซึ่งบอกว่าได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนมายาวนาน จากการแบ่งแยกทางชาติพันธุ์และการควบคุมกิจกรรมทางศาสนาแบบกดขี่ภายใต้นโยบายของปักกิ่ง พวกเขากำลังประณามกล่าวโทษว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการทะลักหลั่งไหลเข้ามาตั้งรกรากในภูมิภาคแถบนี้ของชาวจีนฮั่น
ชาวบ้านคนหนึ่งในตำบลลุกชุน ซึ่งยอมพูดโดยขอให้ปิดบังชื่อ ระบุยืนยันว่าจำนวนคนที่ตายไปในความรุนแรงล่าสุดนี้มี “มากกว่า 40 คน” จริงๆ
“ผมได้รับโทรศัพท์หลายสายทีเดียวจากพวกญาติพี่น้องของเราในอำเภอปีชาน พวกเขาต่างบอกว่าได้เห็นคนเจ็บจำนวนมากกำลังถูกลำเลียงจากลุกชุนไปยังโรงพยาบาลแห่งต่างๆ ของอำเภอปีชาน พวกเขาบอกว่าพวกเขาได้ยินมาว่าจำนวนคนที่ตายได้เลยหลัก 40 คนไปแล้ว (เมื่อคืนวันพุธ)”
ในหมู่บุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยซึ่งถูกสังหารไปในคราวนี้ ผู้ที่ถูกระบุตัวเอ่ยนามแล้ว ก็มีดังเช่น ตำรวจชาวอุยกูร์ 2 คน ชื่อ แจปปาร์ ออสมาน (Jappar Osman) วัย 30 ปี กับ อาดิล อาบลิซ (Adil Abliz) วัย 27 ปี และ ผู้ช่วยตำรวจวัย 21 ปีชื่อ เยห์ยา อิสราปิล (Yehya Israpil) ทั้งนี้ตามการบอกเล่าของ อาลิมจัน เรกิป (Alimjan Reqip) เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในท้องถิ่น
เขากล่าวว่า ผู้โจมตี 1 ใน 3 คนที่ถูกยิงและถูกจับกุมตัวได้ ถูกระบุตัวว่าชื่อ อับดุลลา อิสราปิล (Abdulla Israpil) อายุ 28 ปี บุคคลผู้นี้ไปทำงานเป็นคนขับแท็กซี่อยู่ในเมืองอุรุมชีมาหลายปีแล้ว และเพิ่งเดินทางมายังลุกชุนได้ 4 วันก่อนเกิดเหตุคราวนี้ ทั้ง 4 คน (เจ้าหน้าที่ 3 คนที่ตาย และผู้เข้าโจมตีที่ถูกจับได้ผู้นี้) ต่างเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านมูกัม (Muqam village) ในตำบลลุกชุน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นพื้นที่ปลูกแตงโมที่ไม่ค่อยมีเรื่องมีราวอะไร
**เพิ่มการรักษาความปลอดภัย **
พวกชาวบ้านเล่าว่า ในอำเภอลุกชุนมีการเพิ่มการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างกวดขันยิ่งขึ้นภายหลังเกิดเหตุร้ายคราวนี้ “ผมเห็นเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ บินต่ำมากอยู่ในระดับยอดไม้เท่านั้น ผมไม่เคยเห็นเฮลิคอปเตอร์ใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งเล่า ซึ่งดูจะบ่งบอกว่าอากาศยานเหล่านี้พุ่งเป้าหมายตรวจตราบริเวณลำแม่น้ำสายหนึ่ง ที่อาจมีผู้ต้องสงสัยบางส่วนซ่อนตัวอยู่
เหตุการณ์ที่อำเภอลุกชุนคราวนี้ เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาร่วมๆ 1 เดือนหลังจากที่มีชาวอุยกูร์อย่างน้อย 12 คนเสียชีวิตไปในเหตุระเบิดซึ่งดูเหมือนเนื่องมาจากวัตถุระเบิดที่พวกเขากำลังนำติดตัวอยู่เกิดบึ้มตูมตามขึ้นมา โดยที่ในขณะนั้นพวกเขากำลังถูกตำรวจตามล่าตัวในบริเวณพื้นที่จังหวัดอัคซู (Aksu prefecture) ของซินเกียง พวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเล่าให้ วิทยุเอเชียเสรี ฟังเช่นนี้
ทางด้าน อาดิล เซเมต (Adil Semet) เจ้าหน้าที่ของเมืองโกราโชล (Ghorachol town) ในอำเภออาวัต (Awat county) ระบุว่าคนเหล่านี้ถูกสังหารตอนที่ถูกไล่ต้อนกระทั่งจนมุม หลังจากพยายามหนีเล็ดรอดจากการเข้าตรวจค้นไปทีละบ้านของพวกตำรวจในเมืองนี้
คำบอกเล่าของเขายังไม่สามารถหาแหล่งข่าวอิสระมายืนยันรับรองได้ พวกชาวเมืองโกราโชลต่างไม่ปรารถนาที่จะพูดถึงเหตุระเบิดคราวนี้ โดยกล่าวว่าพวกเขาหวาดกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
สักประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในซินเกียงได้ลงโทษจำคุกชาวอุยกูร์ 19 คนด้วยข้อหากระทำความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับ “ความสุดโต่งในทางศาสนา” สื่อมวลชนของจีนรายงานเอาไว้เช่นนี้ โดยที่พวกกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า การลงโทษเช่นนี้มุ่งหมายที่จะเป็นการส่งข้อความของชาวอุยกูร์ ในช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะถึงวันครบรอบ 4 ปีของความรุนแรงในอุรุมชี
ในเดือนเมษายนปีนี้ ยังได้เกิดเหตุปะทะกันซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 21 คน ภายหลังจากพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบระบุว่า ได้ค้นพบและทำลาย “แผนการก่อการร้าย” ในระหว่างการเข้าค้นบ้านหลังหนึ่งในอำเภอมารัลเบชี (Maralbeshi county) ของซินเกียง และเกิดการต่อสู้กับชาวอุยกูร์กลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขาระบุว่าใช้มีดเป็นอาวุธ
พวกกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า พวกผู้มีอำนาจรับผิดชอบของจีนกำลังจับกุมคุมขังชาวอุยกูร์แบบเหวี่ยงแหชนิดไม่มีการจำแนกแยกแยะ โดยอ้างเหตุผลในเรื่องการต่อสู้กับการก่อการร้าย, การแบ่งแยกดินแดน, และพวกสุดโต่งทางศาสนา ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พวกผู้มีอำนาจรับผิดชอบเหล่านี้ ก็กำลังเร่งรัดให้ชาวจีนฮั่นไหลทะลักเข้าไปตั้งรกรากในภูมิภาคแถบนี้กันมากขึ้นๆ
ชอห์เรต ฮัสฮูร์ (Shohret Hoshur) เป็นผู้รายงานข่าวนี้ให้แก่วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาอุยกูร์ (Radio Free Asia's Uyghur Service) รวมทั้งแปลเป็นภาษาอังกฤษ และ ปรเมศวรัน ปอนนูดูไร (byParameswaran Ponnudurai) เป็นผู้เขียนรายงานข่าวนี้เป็นภาษาอังกฤษ
วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia ใช้อักษรย่อว่า RFA) ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากเงินให้เปล่าของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน RFA เป็นผู้ดำเนินการสถานีวิทยุและบริการข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต