xs
xsm
sm
md
lg

ผลการศึกษาชี้ เอเชียจะแซงหน้า US ใน 8 ปี ขึ้นแท่นดินแดน “เจ้าบุญทุ่ม” ด้านอาวุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลการศึกษาล่าสุดชี้ชาติยักษ์ใหญ่ในเอเชียกำลังจะก้าวแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ในฐานะประเทศที่มีการใช้จ่ายทางด้านการทหารรายใหญ่ที่สุดของโลกภายในปี 2021 และการใช้จ่ายด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของเอเชียกำลังกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวอย่างขนานใหญ่ของการค้าอาวุธในระดับโลก

รายงานซึ่งรวบรวมโดย “ไอเอชเอส เจน”บริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศชื่อดังที่มีการเผยแพร่ในวันอังคาร (25) ระบุระหว่างปี ค.ศ. 2008-2012 การค้าอาวุธระดับโลกพุ่งสูงขึ้นราว 30 เปอร์เซ็นต์เป็นกว่า 73,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง

พอล เบอร์ตัน ผู้จัดการอาวุโสแห่งไอเอชเอส เจนระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมหาศาลทางด้านการทหารกำลังเปลี่ยนทิศทางมายังโลกตะวันออกหรือทวีปเอเชียมากขึ้น และก่อให้เกิดการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาดการค้าอาวุธของโลก นับเป็นปรากฏการณ์ของ “การปะทุของความต้องการด้านอาวุธ” ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา

แม้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐฯ จะครองความเป็นจ้าว ในฐานะประเทศผู้ใช้จ่ายด้านอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลกมาโดยตลอด แต่ปัญหาการตัดลดงบประมาณในวอชิงตัน รวมถึงการถอนตัวของกองทัพอเมริกันจากสมรภูมิอัฟกานิสถานส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายด้านนี้ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดสัดส่วนลงเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2021 ตามหลังยอดการใช้จ่ายด้านอาวุธของชาติในเอเชียที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 31 เปอร์เซ็นต์ในปีเดียวกัน และนั่นหมายความว่าภายใน 8 ปีข้างหน้าเอเชียจะขึ้นแท่นเป็นดินแดนที่มียอดการใช้จ่ายทางด้านความมั่นคงและการป้องกันสูงที่สุดในโลก

การใช้จ่ายทางทหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงชาติยักษ์ใหญ่อย่างจีน อินเดีย และอินโดนีเซียมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก 35 เปอร์เซ็นต์เป็น 501,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 15.52 ล้านล้านบาท)ในระยะเวลา 8 ปีจากนี้ ขณะที่ยอดการใช้จ่ายด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จะร่วงลงมา 28 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 472,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 14.6 ล้านล้านบาท)

ขณะที่ กาย แอนเดอร์สัน นักวิเคราะห์อาวุโสของไอเอชเอส เจนให้ความเห็นว่า เมื่อตลาดการค้าอาวุธมีแนวโน้มหันมาขยายตัวอย่างบ้าคลั่งในเอเชีย ดังนั้น บรรดาบริษัทผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากต้องกระโจนเข้าสู่ตลาดที่กำลังบูมในเอเชีย อย่างไรก็ดี การขยายตัวของตลาดอาวุธและสินค้าด้านความมั่นคงในเอเชียเปรียบเหมือน “ดาบสองคม” เพราะศักยภาพด้านการทหารที่เพิ่มสูงขึ้นของเอเชียย่อมเป็นภัยคุกคามต่อฐานะมหาอำนาจทางทหารเบอร์หนึ่งของสหรัฐฯ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

ในอีกด้านหนึ่ง การที่จีนเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารอย่างสำคัญในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กำลังสร้างความกังวลให้กับเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงมิใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด หากเราจะได้เห็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอินเดียหันมาเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพของตนอย่างขนานใหญ่ เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย ชาติมุสลิมยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



กำลังโหลดความคิดเห็น