รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการบังกลาเทศเริ่มทำการอพยพประชาชนกว่า 1 ล้านคน ไปยังพื้นที่ปลอดภัยก่อนการมาถึงของพายุไซโคลน “มาฮาเซน” ที่จะพัดขึ้นฝั่งในค่ำวันพฤหัสบดี (16)ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความกังวลพร้อมเผยประชาชนราว 4.1 ล้านคนอยู่ในความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักภาวะน้ำท่วม และดินถล่ม ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้อาจมี “สตอร์มเสิร์จ” สูง 7 ฟุตซัดถล่มชายฝั่ง ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย
บังกลาเทศ หนึ่งในประเทศที่ได้ชื่อว่ายากจนข้นแค้นที่สุดของทวีปเอเชียได้เพิ่มระดับการเตือนภัยพายุขึ้นสู่ระดับที่ 7 จากทั้งหมด 10 ระดับ ขณะที่พายุไซโคลน “มาฮาเซน” ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังคงทวีกำลังแรงขึ้นและมีกำหนดเคลื่อนพัดเข้าถล่มชายฝั่งบังกลาเทศในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
พายุไซโคลนลูกนี้ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 7 ราย และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 3,881 คนในศรีลังกาขณะเดียวกันความแรงของพายุยังส่งผลให้เรือบรรทุกผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮิงญาจากพม่า พลิกคว่ำเมื่อกลางดึกวันจันทร์ (13) ที่ผ่านมาบริเวณนอกชายฝั่งรัฐยะไข่ ทำให้มีผู้อพยพจมน้ำสูญหายไปอย่างน้อย 58 คน รวมถึงล่าสุดที่พบผู้เสียชีวิตแล้ว 5 รายแถบชายฝั่งของบังกลาเทศ
ขณะนี้มีรายงานว่า รัฐบาลบังกลาเทศได้สั่งให้มีการอพยพประชาชนราว 1 ล้านคน ออกจากพื้นที่ 15 เขตริมชายฝั่ง พร้อมสั่งปิดสนามบินกับท่าเรือหลายแห่ง เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นหลังไซโคลนลูกนี้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง
อย่างไรก็ดี สำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม (OCHA) พบข้อมูลที่น่าเป็นห่วงว่ามีประชาชนชาวบังกลาเทศราว 4.1 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ในเมืองท่าจิตตะกอง ซึ่งเป็นบ้านของประชากรกว่า 3 ล้านคน รวมถึงที่เมืองค็อกซ์บาซาร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาคาดว่า อิทธิพลของไซโคลนมาฮาเซนจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และอาจเกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ของบังกลาเทศ รวมถึงอาจทำให้เกิดคลื่นสตอร์มเสิร์จความสูงกว่า 7 ฟุตซัดเข้าโจมตีพื้นที่แถบชายฝั่งของบังกลาเทศด้วย
