กระบี่ - ชาวสวนยาง สวนปาล์มน้ำมันกว่า 500 คน บุกศาลากลางจังหวัดกระบี่ เรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นราคายางกิโลกรัมละ 120 บาท ปาล์ม 5 บาท หลังจากที่ราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมขู่ภายใน 10 วัน ไม่แก้ไขปิดสนามบินทันที
เวลา 10.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.) เกษตรกรชาวสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวนกว่า 500 คน นำโดย น.ส.กนกพร พัวประเสริฐ และ น.ส.นิภาภร เล็กดำ ตัวแทนเกษตรกรฯ เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมนำรถกระบะ และรถ 6 ล้อ บรรทุกผลปาล์มดิบเต็มคันรถ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน หลังจากที่ราคาปาล์ม และยางมีราคาตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อให้ช่วยราคายางกิโลกรัมละ 120 บาท และปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5 บาท โดยทางแกนนำได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยบนรถกระบะที่ได้ดัดแปลงทำเป็นเวที
นายชำนาญ มากผล 1 ในตัวแทนเกษตรกรฯ ที่ขึ้นปราศรัยบนเวที กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม และสวนยางได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากปาล์ม และยางมีราคาถูก ตั้งแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ ก็ไม่เคยให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงจัง ทำแค่สร้างภาพลักษณ์เป็นครั้งคราว โดยที่ผ่านมา รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลกว่า 4 หมื่นล้านบาท ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์ม แต่คนที่ได้รับประโยชน์กลับพบว่าเป็นแค่กลุ่มนายทุนเท่านั้น ส่วนเกษตรกรคนจนกลับไม่ได้ประโยชน์ เนื่องจากติดขัดในเรื่องของกฎเกณฑ์มากมาย
นายชำนาญ ได้กล่าวอีกว่า ทางกลุ่มเกษตรชาวสวนยาง และสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ ให้เวลารัฐบาล 10 วันในการแก้ปัญหาราคายาง และปาล์มตกต่ำ หากว่าไม่มีคำตอบให้ทางกลุ่มฯ ก็จะมีการยกระดับในการชุมนุม โดยอาจจะไปรวมตัวกันที่สนามบินก็อาจจะเป็นไปได้ ทั้งนี้ เพื่อให้รัฐบาลหันมาดูแลคนใต้บ้าง อย่ามองเพียงว่าคนใต้เป็นคนเสื้อเหลือง เป็นคนชั้นสอง จะทำอย่างไรก็ได้ และสนใจแต่คนภาคอีสาน ภาคเหนือ ข้าวยังไม่ทันปลูก ก็มีการตั้งงบประมาณจำนำกันแล้วเงินเป็นแสนๆ ล้าน ในขณะที่ปาล์มและยางตัดทุกวัน แต่รัฐบาลก็ไม่เคยสนใจ การออกมาอยู่บนถนน หน้าศาลากลางของเกษตรกรไม่ใช่เป็นการกดดัน แต่บอกให้รัฐบาลได้รู้ว่าเกษตรกรเดือดร้อนจริง
น.ส.กนกพร พัวประเสริฐ และ น..ส.นิภาภร เล็กดำ แกนนำเรียกร้องราคายาง และปาล์ม กล่าวว่า ขณะนี้ราคายาง และปาล์มมีราคาตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดเทอม ยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรชาวจังหวัดกระบี่ ส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยาง และสวนปาล์มน้ำมัน โดยราคาปาล์มทะลายเฉลี่ย ราคากิโลกรัมละ 3 บาท และราคาน้ำยางสด กิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งเมื่อนำมาคิดคำนวณต้นทุนแล้วเกษตรกรยังประสบกับภาวะขาดทุน และที่ผ่านมา ทางรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามากนัก
ต่อมา ทางนายวีระ จันทรทิพรักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ ทำหน้าที่แทนนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ซึ่งติดราชการที่กรุงเทพฯ ได้เชิญแกนนำประชุมเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งในที่ประชุมทางตัวแทนได้เสนอให้ทางรัฐบาลแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ โดยให้มีการรับซื้อกิโลกรัมละ 120 บาท ปาล์มดิบกิโลกรัมละ 5 บาท ผ่านทางจังหวัดกระบี่ ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งทางปลัดจังหวัดกระบี่ รับเรื่องพร้อมกล่าวว่า จะนำเสนอความต้องการของเกษตรกรถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลอย่างเร่งด่วนที่สุด ซึ่งทางกลุ่มเกษตรกรพอใจและเดินทางกลับ และได้ทิ้งท้ายว่า 10 วัน จะกลับมาฟังคำตอบหากไม่พอใจจะปิดสนามบินประท้วงทันที