เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (1พ.ค.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือเกษตรสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน ที่ราคาตกต่ำอยู่ขณะนี้ โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว พร้อมรับปากจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายถาวร กล่าวก่อนยืนหนังสือว่า การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ทำเพื่อป่วน หรือสร้างความวุ่นวายทางการเมือง แต่ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาล ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาลม์น้ำมัน ดังนี้
1.รับซื้อยางพาราชั้น 3 จากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน 2. รับซื้อปาล์มทะลายสดจากเกษตรกรในราคาประกัน ที่ไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน และ 3. หากรัฐบาลไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 6 พ.ค.นี้ ส.ส.ที่อยู่ในจังหวัดซึ่งปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน จะเดินทางมายื่นหนังสือในที่ประชุมครม. เพื่อให้ออกมาตรการเร่งด่วนต่อไป
สำหรับหนังสือดังกล่าวระบุว่า วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประชุมส.ส. ตามที่เกษตรกรชาววสนยางและชาวสวนปาล์มน้ำมัน เรียกร้องขอให้ช่วยแก้ไขเนื่องจากราคาตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และปัจจุบันราคายางพาราอยู่ที่ประมาณ 68-70 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปาล์มอยู่ที่ 2.40-3.00บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ เนื่องจากราคาดังกล่าวต่ำกว่าต้นทุนการผลิต แม้ที่ผ่านมานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมัยดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อมติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) อนุมัติวงเงิน 15,000 ล้านบาท และได้เพิ่มงบประมาณอีกจำนวนมาก จะทำให้ราคายางอยู่ที่ 120 บาท ต่อกิโลกรัม แต่เมื่อรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ ราคายางพาราแล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาราคายางตกต่ำได้
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า ที่ประชุมพรรคมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ดังนี้ คือ รับซื้อยางพาราชั้น 3 จากเกษตรกรในราคาประกันไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน และรับซื้อปาล์มทะลายสดจากเกษตรกร ในราคาประกันไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่มีมาตรการใดๆออกมาจนถึงวันที่ 6 พ.ค.56 ส.ส.ในพื้นที่ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน จะเดินทางไปยื่นหนังสือในที่ประชุมครม.ต่อไป อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 5ส.ค.54 ก็ไม่ได้ให้ความสำคัยกับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ และราคาตกมาตลอด จึงขอเรียกร้องให้หันมาเห็นความสำคัญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว
นายถาวร กล่าวก่อนยืนหนังสือว่า การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ทำเพื่อป่วน หรือสร้างความวุ่นวายทางการเมือง แต่ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาล ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาลม์น้ำมัน ดังนี้
1.รับซื้อยางพาราชั้น 3 จากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน 2. รับซื้อปาล์มทะลายสดจากเกษตรกรในราคาประกัน ที่ไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน และ 3. หากรัฐบาลไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 6 พ.ค.นี้ ส.ส.ที่อยู่ในจังหวัดซึ่งปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน จะเดินทางมายื่นหนังสือในที่ประชุมครม. เพื่อให้ออกมาตรการเร่งด่วนต่อไป
สำหรับหนังสือดังกล่าวระบุว่า วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประชุมส.ส. ตามที่เกษตรกรชาววสนยางและชาวสวนปาล์มน้ำมัน เรียกร้องขอให้ช่วยแก้ไขเนื่องจากราคาตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และปัจจุบันราคายางพาราอยู่ที่ประมาณ 68-70 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปาล์มอยู่ที่ 2.40-3.00บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ เนื่องจากราคาดังกล่าวต่ำกว่าต้นทุนการผลิต แม้ที่ผ่านมานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมัยดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อมติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) อนุมัติวงเงิน 15,000 ล้านบาท และได้เพิ่มงบประมาณอีกจำนวนมาก จะทำให้ราคายางอยู่ที่ 120 บาท ต่อกิโลกรัม แต่เมื่อรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ ราคายางพาราแล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาราคายางตกต่ำได้
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า ที่ประชุมพรรคมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ดังนี้ คือ รับซื้อยางพาราชั้น 3 จากเกษตรกรในราคาประกันไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน และรับซื้อปาล์มทะลายสดจากเกษตรกร ในราคาประกันไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่มีมาตรการใดๆออกมาจนถึงวันที่ 6 พ.ค.56 ส.ส.ในพื้นที่ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน จะเดินทางไปยื่นหนังสือในที่ประชุมครม.ต่อไป อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 5ส.ค.54 ก็ไม่ได้ให้ความสำคัยกับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ และราคาตกมาตลอด จึงขอเรียกร้องให้หันมาเห็นความสำคัญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว