ตรัง - คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ วุฒิสภา เตรียมยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ให้นำยางพาราไปเป็นส่วนประกอบในการทำถนน เพื่อแก้ปัญหาราคาร่วงอย่างหนักในขณะนี้
นายวิเชียร คันฉ่อง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดตรัง ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการบริหารจัดการปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และแนวทางการส่งเสริมการพัฒนายางพาราทั้งระบบ วุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้ยางพาราในพื้นที่ภาคใต้และทั่วประเทศมีราคาตกต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 กว่าบาทเท่านั้น ต่างไปจากราคาที่กำหนดไว้ในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ซึ่งอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 100 บาท เป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงทำให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ และทั่วประเทศได้รับผลกระทบกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการบริหารจัดการปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และแนวทางการส่งเสริมการพัฒนายางพาราทั้งระบบ วุฒิสภา เห็นว่าแนวทางหนึ่งที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่ยางพาราได้ก็คือ การยกระดับการใช้ยางพาราในประเทศไทยให้สูงขึ้น โดยไม่พึ่งพาเฉพาะการส่งออกเท่านั้น ด้วยการใช้ยางพาราเป็นส่วนประกอบในการทำถนน และการขนส่งระบบรางให้มากขึ้น ซึ่งกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ศึกษาค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีจนสำเร็จมาแล้ว อีกทั้งผลการทดลองใช้ยังพบว่า ถนนที่มียางพาราเป็นส่วนประกอบนั้นจะมีคุณภาพดีกว่าถนนที่ทำจากยางมะตอย
ดังนั้น ในวันจันทร์ที่ 29 เมษายน นี้ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการบริหารจัดการปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และแนวทางการส่งเสริมการพัฒนายางพาราทั้งระบบ วุฒิสภา จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลสนับสนุนการใช้ยางพาราเป็นส่วนประกอบในการทำถนน โดยการประกาศให้เป็นนโยบาย และให้กระทรวงคมนาคม กับกระทรวงมหาดไทย รีบนำไปพิจารณาดำเนินการ ประกอบกับการที่รัฐบาลมีโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หากได้มีการนำยางพาราไปใช้ในโครงการดังกล่าว ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ยางพารา และช่วยแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
