ศรีสะเกษ - รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบรง.ยางพารา จ.ศรีสะเกษ พบยางพารากว่า 5.7 ล้าน กก. มูลค่ากว่า 526 ล้าน ถูกกองทิ้งเกลื่อนโรงงานเสียหายเป็นจำนวนมาก ยังประเมินค่าเสียหายไม่ได้ สั่งเร่งตรวจสอบหาผู้รับผิดชอบ ขณะเครือข่ายสวนยางพาราศรีสะเกษจี้รัฐบาลเร่งเปิดเดินเครื่องโรงงานผลิตยางพาราหลังสร้างเสร็จมานาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
วันนี้ (22 ก.พ.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานยางแท่ง STR 20 ขององค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) บ้านซำสะโหมง ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้
ในขณะเดียวกัน นายภาคภูเบศ พวงมะลิ อายุ 50 ปี ประธานเครือข่ายสวนยางพาราจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย สมาชิกเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ได้เดินทางมาเรียกร้องให้เร่งเปิดโรงงานยางพาราดังกล่าวที่สร้างเสร็จมานานแล้ว เพื่อช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในหลายพื้นที่ภาคอีสานที่ได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับขณะนี้ยางพาราประสบปัญหาราคาตกต่ำเป็นอย่างมาก
นายภาคภูเบศ พวงมะลิ อายุ 50 ปี ประธานเครือข่ายสวนยางพาราจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนและกลุ่มผู้เกษตรกรต้องการให้มีการเปิดโรงงานยางพาราแห่งนี้เพื่อเดินเครื่องผลิตยางพาราโดยเร่งด่วน เนื่องจากในขณะนี้มีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับราคายางพาราที่ตกต่ำ ประกอบกับยางพารจำนวนมากที่กองอยู่ในโรงงาน STR 20 แห่งนี้ หากทิ้งไว้นานจะทำให้หมดสภาพเกิดเสียหายสูญเสียเงินงบประมาณรัฐบาลโดยเปล่าประโยชน์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบยางพาราที่โรงงานยางแท่ง STR 20 พบว่ามีปริมาณยางพาราทั้งสิ้น 5,757,671 กิโลกรัม ซึ่งถือว่ามีปริมาณยางพาราที่สูงมากคิดเป็นมูลค่าประมาณ 526,774,791 บาท โดยเริ่มมีการทยอยนำยางพาราเข้ามาที่โรงงานแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2555 รวมระยะเวลา 8 เดือน ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าวนี้ทางคณะกรรมการบริหารโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางไม่ได้รับทราบปัญหาในเรื่องการนำยางพาราเป็นจำนวนมาก มาทิ้งตากแดดไว้นานขนาดนี้
จากการตรวจสอบพบว่า มียางพาราบางส่วนเริ่มขึ้นราแล้ว และได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ ในเบื้องต้นจะได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เคลื่อนย้ายกองยางพาราสำหรับส่วนที่ยังใช้ได้ไปยังโรงงานผลิตยางแท่งเพื่อนำไปผลิตยางพาราแท่งอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนยางพาราที่เสียหายจะได้นำผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบในเรื่องนี้
ส่วนกรณีเรื่องการเปิดเดินเครื่องโรงงานผลิตยางพาราแห่งนี้นั้น เป็นความรับผิดชอบขององค์การสวนยาง หรือ อ.ส.ย. โดยปัญหาโรงงานยางพาราแห่งนี้ มีความผิดพลาดในหลายกรณีส่งผลทำให้คณะกรรมการตรวจสอบไม่สามารถตรวจรับได้ ซึ่งตนไม่มีอำนาจตัดสินใจในการเปิดโรงงานผลิตยางพาราแต่อย่างใด
