เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์ชั้นนำของจีนเรียกร้องให้มีการทบทวนอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นเหนือเกาะโอกินาวา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะริวกิวและเป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ หลายแห่ง ในขณะที่ปัญหาการแย่งชิงดินแดนระหว่างจีนและเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกกำลังคุกรุ่น
บทความในหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ซึ่งมียอดจำหน่ายสูงสุดและเป็นกระบอกเสียงหลักของรัฐบาลปักกิ่ง วันนี้ (8) เสนอข้อโต้แย้งว่าจีนควรจะมีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะริวกิวทั้งหมด ซึ่งรวมโอกินาวาด้วย
“ข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะริวกิวซึ่งยังแก้ไขไม่ได้นั้น ถึงเวลานำกลับมาทบทวนเสียที” จาง ไห่เผิง และหลี่ กั๋วเฉียง นักวิชาการจากวิทยาลัยรัฐศาสตร์จีน ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยของรัฐ ระบุ โดยอ้างถึงประกาศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งบังคับให้ญี่ปุ่นต้องส่งคืนดินแดนส่วนที่ยึดไปจากจีน
จาง และหลี่ ยังเอ่ยถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่จีนใช้เป็นข้ออ้างว่า หมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออกซึ่งจีนเรียกว่า “เตี้ยวอี๋ว์” ส่วนญี่ปุ่นเรียกว่า “เซ็งกากุ” นั้น เคยอยู่ใต้การปกครองของจีนมาก่อน
ปัญหาหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์กลายเป็นประเด็นสงครามน้ำลายระหว่างจีนและญี่ปุ่นตลอดหลายเดือนมานี้ และจีนยังได้ส่งกองเรือเข้าไปในน่านน้ำรอบหมู่เกาะดังกล่าวซึ่งญี่ปุ่นครอบครองอยู่ จนหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดการสู้รบกันขึ้น
โอกินาวา เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะริวกิว ซึ่งทอดยาวจากแผ่นดินใหญ่ญี่ปุ่นลงใต้เป็นระยะทาง 1,000 กิโลเมตร และยังเคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรริวกิวที่ถวายบรรณาการแด่จักรพรรดิจีนมาช้านาน ก่อนจะถูกผนวกเข้ากับญี่ปุ่นในปี 1879
รัฐบาลปลาดิบอนุญาตให้สหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพอากาศ และฐานทัพนาวิกโยธินหลายแห่งบนเกาะโอกินาวา ขณะที่พลเมืองราว 1,300,000 คนที่นั่นก็มีความผูกพันทางเชื้อชาติและภาษากับญี่ปุ่นมากกว่าจีน
อย่างไรก็ตาม ชาวจีนบางคนเห็นว่าความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์คือพื้นฐานหลักของการอ้างอธิปไตย และไม่ยอมรับการครอบครองเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น เพราะถือเป็น “มรดก” จากลัทธิจักรวรรดินิยมอันป่าเถื่อนซึ่งสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2
แม้ว่าปักกิ่งจะยังไม่เคยอ้างความเป็นเจ้าของเกาะโอกินาวามาก่อน แต่บ่อยครั้งที่สื่อรัฐบาลลงบทความเป็นเชิงตั้งคำถามถึงอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่น