เอเอฟพี - ปักกิ่งยังขาดอำนาจต่อรองกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ และจะคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรเปียงยางทุกรูปแบบ เพื่อมิให้สถานะของจีนในสายตาเกาหลีเหนืออ่อนแอลงมากไปกว่านี้ สื่อรัฐบาลจีนรายงาน วันนี้(13)
จีนถือเป็นมหามิตรและเป็นเพียงชาติเดียวที่มีอิทธิพลต่อรัฐโสมแดง ซึ่งหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงจรวดส่งดาวเทียมกวางเมียงซอง-3ขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จวานนี้(12) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯก็ออกมาเรียกร้องให้จีนแสดงบทบาทคุมเกาหลีเหนือให้อยู่หมัดยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ โกลบอลไทม์ส ของจีนกลับระบุในบทบรรณาธิการ วันนี้(13)ว่า “อิทธิพลของจีนที่มีต่อประเทศอื่นในภูมิภาคยังค่อนข้างจำกัด... ปัญหาที่แท้จริงก็คือ จีนยังไม่เข้มแข็งพอที่จะแทรกแซงกิจการภายในของเพื่อนบ้านได้”
“ท่าทีของเกาหลีเหนือบ่งบอกว่าจีนยังขาดอำนาจต่อรอง” พาดหัวบทบรรณาธิการ ระบุ
แม้รัฐบาลจีนจะออกมาแสดงความเสียใจที่เกาหลีเหนือยิงจรวดโดยไม่ฟังคำทัดทานของทุกฝ่าย แต่สื่อรัฐบาลก็ยังยืนยันว่า ปักกิ่งไม่อาจยอมรับบทลงโทษขั้นรุนแรงต่อเกาหลีเหนือได้ เพราะจะบั่นทอนความสัมพันธ์ 2 ชาติ และหากมาตรการแข็งกร้าวของตะวันตกทำให้เปียงยางจนมุม ก็อาจเกิดผลเสียร้ายแรงตามมา
“นี่คือสาเหตุที่จีนไม่อาจร่วมมือกับสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือได้” โกลบอลไทม์ส เผย
“จีนจะใช้สิทธิ์วีโตมติของทั้ง 3 ชาติที่รุนแรงเกินเหตุ และเกาหลีเหนือก็ต้องเตรียมรับผลของสิ่งที่ทำลงไป”
โกลบอลไทม์ส เอ่ยอ้างถึงความหวาดกลัวที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาค หากเกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้สำเร็จ
ปฏิกิริยาตอบสนองต่อการยิงดาวเทียมเมื่อวานนี้(12) ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่เกาหลีเหนือ “ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์” และ หาก “วงจรอุบาทว์” นี้ยังแผ่ขยายต่อไป จนญี่ปุ่นตัดสินใจยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จะทำให้สันติภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือถูกคุกคาม โกลบอลไทม์ส ระบุ
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ พีเพิลส์ เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง ก็ชี้ว่า ปัญหาเกาหลีเหนือเป็นเรื่อง “ละเอียดอ่อน, ซับซ้อน และอันตราย” พร้อมเรียกร้องให้ จีน, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ โน้มน้าวเกาหลีเหนือให้ยอมเดินเข้าสู่เวทีเจรจาลดอาวุธ 6 ฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ควรมีมาตรการตอบสนองอย่างรอบคอบและระมัดระวังด้วยเช่นกัน พีเพิลส์ เดลี ระบุ
ติง กัง คอลัมนิสต์ชาตินิยมจัดของของ โกลบอล ไทม์ส แนะให้รัฐบาลปักกิ่งฉวยโอกาสนี้เสนอกรอบความมั่นคงในภูมิภาคเสียเลย
“จีนเป็นมหาอำนาจในภูมิภาค และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะเสนอกลไกทางการเมืองและความมั่นคง... แน่นอนว่าจีนก็ต้องปฏิบัติตามกลไกเหล่านี้ แต่ความน่าเชื่อถือที่จะได้รับตามมาคือสิ่งสำคัญยิ่งกว่า” เขากล่าว
“กลไกดังที่ว่านี้จะไม่เพียงควบคุมเกาหลีเหนือได้เท่านั้น แต่รวมถึงฟิลิปปินส์และเวียดนามด้วย”
จีนมีข้อพิพาทกับญี่ปุ่นว่าด้วยเรื่องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะเซ็งกากุหรือเตี้ยวอี๋ว์ในทะเลจีนตะวันออก และการที่ปักกิ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดก็เป็นเหตุให้ต้องบาดหมางกับอีกหลายประเทศในอาเซียน