เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ซาอุดีอาระเบียอาจตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตนักโทษ จากการตัดศีรษะในที่สาธารณะ มาเป็นการยิงเป้า หลังประสบปัญหาขาดแคลน “เพชฌฆาต”
รายงานข่าวในวันจันทร์ (11) ซึ่งอ้าง หนังสือพิมพ์รายวัน “อัล-อะห์รัม” ที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลอียิปต์ระบุว่า ราชอาณาจักรกลางทะเลทรายอย่างซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนเพียงแห่งเดียวของโลกที่ยังคงใช้วิธีการประหารชีวิตนักโทษด้วยการตัดศีรษะในที่สาธารณะ อาจตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้การยิงเป้าในการปลิดชีพนักโทษประหารแทน
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย หันมาพิจารณาวิธีการประหารชีวิตนักโทษในรูปแบบอื่นในครั้งนี้ มิได้เกิดจากแรงกดดันจากนานาชาติที่มีต่อการตัดหัวนักโทษ ในที่สาธารณะแต่อย่างใด แต่สาเหตุสำคัญเกิดจากจำนวนเพชฌฆาตของรัฐที่มีไม่เพียงพอ
หนังสือพิมพ์อัล-อะห์รัมของอียิปต์ระบุว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาว่า การเปลี่ยนวิธีประหารชีวิตนักโทษมาเป็นการยิงเป้านั้นขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลามหรือไม่ จากนั้นก็ต้องมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของหัวหน้าเขตปกครองท้องถิ่นทั้ง 13 แห่งของประเทศอีกชั้นหนึ่ง ก่อนจะมีผลบังคับในทางกฏหมาย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการซาอุดีอาระเบียมีขึ้นหลังจากจำนวนเพชฌฆาตของรัฐมีไม่เพียงพอ และเกิดปัญหาเหล่าเพชฌฆาตเดินทางมาถึงลานประหารล่าช้าบ่อยครั้ง จนส่งผลกระทบต่อการจราจรและตารางการทำงานของหลายหน่วยงาน
ทั้งนี้ ทางการซาอุดีอาระเบียได้ทำการตัดศีรษะนักโทษในที่สาธารณะเมื่อปีที่แล้วรวม 76 คน ส่วนในปี 2013 นี้ มีนักโทษถูกปลิดชีพด้วยวิธีการดังกล่าวแล้ว 15 ราย โดยผู้ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบีย มีทั้ง ผู้ที่กระทำความผิดจากการข่มขืน ฆาตกรรม การเอาใจออกห่างจากศาสนาอิสลาม การใช้อาวุธเข้าปล้น และการค้ายาเสพติด เป็นต้น