“นิรโทษกรรมสากล” เผยแนวโน้มการใช้ “โทษประหาร” ทั่วโลกลดลง ส่วนจีนยังครองแชมป์ปลิดชีพนักโทษสูงสุด

เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การนิรโทษกรรมสากล เผยในรายงานฉบับล่าสุดในวันพุธ (10) โดยระบุการใช้โทษประหารชีวิตทั่วโลกมีแนวโน้มลดน้อยลง แม้จะมีหลายประเทศ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น ปากีสถาน และแกมเบีย ที่มีการรื้อฟื้นการลงโทษด้วยวิธีการประหารชีวิตขึ้นมาใหม่ในปีที่แล้ว ขณะที่จีนยังเป็นประเทศที่มีสถิติการประหารชีวิตนักโทษสูงที่สุด

องค์การนิรโทษกรรมสากลซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร เผยแพร่รายงานชิ้นล่าสุดเกี่ยวกับการบังคับใช้โทษประหารชีวิตทั่วโลก ซึ่งพบว่าในปี 2012 ที่ผ่านมา มี 21 ประเทศทั่วโลกที่มีการประหารชีวิตนักโทษในรูปแบบต่างๆทั้งการแขวนคอ ตัดศีรษะ ยิงเป้า และฉีดยาเข้าเส้นเลือด ซึ่งจำนวนประเทศที่ยังคงมีการบังคับใช้โทษประหารชีวิตในปีที่แล้วยังคงเท่ากับเมื่อปี 2011 แต่ลดลงจากการสำรวจในปี 2003 ที่มี 28 ประเทศ

รายงานระบุว่า ในปีที่แล้วมีการประหารชีวิตนักโทษทั่วโลกอย่างน้อย 682 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2 ราย โดยสาธารณรัฐประชาชนจีน อิหร่าน อิรัก ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และเยเมน เป็นประเทศที่มีสถิติการประหารชีวิตนักโทษสูงที่สุดในปี 2012 แม้ทางองค์การนิรโทษกรรมสากลจะยอมรับว่า ไม่อาจหาข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนนักโทษประหารในจีนได้ก็ตาม

อย่างไรก็ดี รายงานขององค์การระบุว่า สถานการณ์ในอิรักค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีผู้ถูกประหารไม่ต่ำกว่า 129 ราย ในปีที่แล้ว และอย่างน้อย 29 รายในปีนี้ ขณะที่ทางกระทรวงยุติธรรมของรัฐบาลแบกแดดยังคงยืนยันจะเดินหน้าบังคับใช้โทษประหารต่อไป โดยไม่ฟังเสียงเรียกร้องจากนานาชาติที่ขอให้อิรักพักการบังคับใช้โทษประหารไว้ก่อน

ในปี 2012 อินเดีย ญี่ปุ่น ปากีสถาน และแกมเบีย เป็น 4 ประเทศที่รื้อฟื้นโทษประหารชีวิตมาใช้ใหม่ ขณะที่เวียดนามไม่มีการประหารชีวิตนักโทษแม้แต่รายเดียวในปีที่แล้ว ส่วนสิงคโปร์ประกาศพักการใช้โทษประหารชีวิตตามข้อเรียกร้องของนานาชาติ รวมถึงทางการมองโกเลียที่มีการให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการยกเลิกโทษประหารชีวิตในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีแนวโน้มที่จำนวนประเทศที่บังคับใช้โทษประหารชีวิตจะลดลงอย่างต่อเนื่อง