xs
xsm
sm
md
lg

เงินลงทุนเข้าจีนลดแรงสุดในรอบกว่า 3 ปี ตอกย้ำต่างชาติปันใจย้ายฐานผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ - การลงทุนโดยตรงของต่างชาติในจีน กำลังลดลงรุนแรงที่สุดในรอบระยะเวลากว่า 3 ปี ตอกย้ำปัญหาท้าทายที่พญามังกรกำลังเผชิญอยู่ ในเมื่อนักลงทุนต่างแดนเริ่มมองว่า การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะแผ่วลง และดังนั้นจึงหันไปลงทุนในประเทศที่ต้นทุนถูกกว่าอย่างเช่นเวียดนามและอินโดนีเซียกันมากขึ้น

วันพุธที่ผ่านมา (20) กระทรวงพาณิชย์จีนรายงานว่า จีนดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) ได้ 9,300 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคมปีนี้ ลดลง 7.3% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และถือเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2009 ที่ตัวเลขเอฟดีไอลดฮวบถึง 9.9% รวมทั้งเป็นสถิติประจำเดือนมกราคมที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 ปี

เอฟดีไอเดือนมกราคมลดลงจากเดือนธันวาคม 2012 ซึ่งอยู่ที่ 11,700 ล้านดอลลาร์ โดยเงินลงทุนจากประเทศสำคัญๆ ในเอเชียและสหรัฐฯ ต่างลดลงทั่วหน้า สะท้อนสิ่งที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ต่างชาติเริ่มมองว่า แนวโน้มการเติบโตระยะสั้นของจีนนั้นอยู่ในช่วงขาลง

จาง จื่อเว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมูระในฮ่องกง กล่าวว่า การลดลงอย่างต่อเนื่องของเอฟดีไอของจีนในเวลานี้ ซึ่งดำเนินไปอย่างยาวนานที่สุดในช่วงหลังเกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2008 นั้น บ่งชี้ความท้าทายในการแข่งขันที่ประเทศผู้ผลิตสินค้าออกรายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้กำลังเผชิญ

จางยังคาดว่า บรรษัทข้ามชาติจำนวนมากขึ้นจะเพิ่มการลงทุนในประเทศที่มีต้นทุนถูกกว่าอย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ เอฟดีไอเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจภายนอกที่เป็นเป้าหมายของภาคการผลิตขนาดใหญ่ของจีน แต่เป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ ในภาพรวมการไหลเข้าของเงินทุน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการส่งออก ซึ่งมีมูลค่าถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ปักกิ่งได้เปิดเผยมูลค่าการค้าประจำเดือนมกราคมที่ปรากฏว่าแข็งแกร่งเกินคาด สะท้อนการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งของอุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกหลังจากที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ 7.8% ในปีที่แล้ว ซึ่งแม้เป็นสถิติต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี แต่ยังถือว่าน่าอิจฉาสำหรับประเทศชั้นนำทั่วโลก

ตลอดทั้งปี 2012 จีนดึงดูดเอฟดีไอได้ 111,700 ล้านดอลลาร์ เทียบกับสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในปีก่อนหน้าที่ 116,000 ล้านดอลลาร์ และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่มูลค่าเอฟดีเอลดลง

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์แจกแจงว่า การลงทุนจากสหภาพยุโรปในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 81.8% จากปีที่แล้ว อยู่ที่ 820 ล้านดอลลาร์ สวนทางกับการลงทุนจากอเมริกาที่ดิ่งลง 20% คงเหลือ 270 ล้านดอลลาร์

เอฟดีไอจาก 10 ประเทศชั้นนำในเอเชีย ซึ่งรวมถึงฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ลดลง 9% อยู่ที่ 7,800 ล้านดอลลาร์

ปักกิ่งนั้นมีเป้าหมายดึงดูดเอฟดีไอให้ได้ปีละ 120,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2012-2015

ทางด้านดาริอุซ โควัลซิก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและนักยุทธศาสตร์ในเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) ของเครดิต อะกริโกล ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า เอฟดีไอของจีนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามภาวะการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นภาคธุรกิจทั่วโลก

นอกจากนั้น แม้เอฟดีไอของจีนยังอยู่ในช่วงขาลง ทว่า ยอดการไหลเข้าในเดือนแรกของปีนี้ก็บ่งชี้สัญญาณว่า เป้าหมายตลอดทั้งปีจะลุล่วงอย่างราบรื่น เนื่องจากมีแนวโน้มว่า ระดับการลงทุนจะยังคงต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี เพราะนักลงทุนมั่นใจทั้งในการฟื้นตัวระยะสั้นและแนวโน้มการเติบโตระยะยาวของแดนมังกร

เสิ่น ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนยอมรับว่า การลดลงของเอฟดีไอในเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่ “ตัวเลขเล็กน้อย” แต่ย้ำว่า จำนวนบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนใหม่ในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 34.3% เป็น 1,883 ราย

เสิ่นยังย้ำว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปภาวะเอฟดีไอตลอดทั้งปี และตัวเลขเพียงแค่เดือนแรกเดือนเดียวย่อมไม่สามารถใช้คาดการณ์ผลกระทบกระเทือนในวงกว้างที่มีต่อเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังแถลงว่า ยอดการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของจีนในเดือนมกราคมยังคงอยู่ในภาวะขาขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 12.3% เป็น 4,910 ล้านดอลลาร์จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

วันเดียวกัน มูดี้ส์เปิดเผยรายงานระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 7.5-8.5% ในปีนี้ โดยได้รับการหนุนหลังจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและการใช้จ่ายทางการคลังแบบกำหนดเป้าหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น