แหล่งข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า นายโตชิโร มูโตะ อดีตข้าราชการกระทรวงการคลังเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งที่จะได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) คนใหม่ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะอาจจะเสนอชื่อผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ในสัปดาห์นี้
ถ้าหากนายมูโตะ วัย 69 ปี ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจสิ่งนี้ก็จะบ่งชี้ว่าบีโอเจจะเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะเงินฝืดมานานหลายปี โดยคาดกันว่าเขาจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกมากกว่านายมาซาอากิ ชิราคาวะ ผู้ว่าการบีโอเจคนปัจจุบัน แต่จะไม่ดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวมากเท่ากับตัวเก็งคนอื่นๆ
ทั้งนี้ นายมูโตะสนับสนุนให้บีโอเจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลประเภทที่มีอายุยาวนานกว่าในนโยบายปัจจุบัน และสนับสนุนให้บีโอเจขยายมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์อย่างแข็งกร้าวกว่านี้ อย่างไรก็ดี เขากล่าวเตือนว่าการพิมพ์เงินใหม่เพื่อชำระหนี้สาธารณะอาจก่อให้เกิดผลเสียได้ และอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น ซึ่งการทำเช่นนั้นอาจส่งผลให้ภาระหนี้ของรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้ หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นมีขนาดสูงกว่า 2 เท่าของมูลค่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น และถือว่าสูงที่สุดในบรรดาชาติอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ถ้อยแถลง
ดังกล่าวบ่งชี้ว่านายมูโตะจะดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังกว่าตัวเก็งคนอื่นๆ
นายมูโตะเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการบีโอเจมาแล้ว ขณะทื่แหล่งข่าวระบุว่าเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจในครั้งนี้ หลังจากที่เขาเคยได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน
แต่รัฐสภาญี่ปุ่นไม่ให้การอนุมัติ ส่งผลให้นายชิราคาวะได้ดำรงตำแหน่งนี้แทนในฐานะตัวเลือกที่เป็นผลจากการประนีประนอมกัน
ผู้กำหนดนโยบายและเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นบางคนกังวลว่า การดำเนินนโยบายอย่างรุนแรงอาจสร้างความปั่นป่วนในตลาด โดยนับตั้งแต่นายอาเบะผลักดันให้บีโอเจดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าว เยนก็ได้ดิ่งลงอย่างรุนแรงจนลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี และส่งผลให้หลายประเทศวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี นโยบายของนายอาเบะช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2008
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า "ดูเหมือนนายมูโตะจะได้รับเสียงสนับสนุนมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้" อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่านายมูโตะจะได้รับเลือกเนื่องจากเขายังคงต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาญี่ปุ่น
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายอาเบะและที่ปรึกษาของเขาได้ตัดรายชื่อตัวเลือกขั้นสุดท้ายลงเหลือ 2-3 คนแล้ว โดยได้ตัดนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนออกไป เพื่อเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานราชการสำหรับตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่
นายมูโตะเป็นตัวเก็งมานานแล้วสำหรับตำแหน่งนี้ โดยเขาอาจจะได้ดำรงตำแหน่งต่อจากนายชิราคาวะ วัย 63 ปี โดยนายชิราคาวะและรองผู้ว่าการบีโอเจสองคนจะก้าวลงจากตำแหน่งพร้อมกันในวันที่ 19 มี.ค.
นายมูโตะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสมาชิกรัฐสภาในพรรคเสรีประชาธิปไตย(LDP) ของนายอาเบะ และมีประสบการณ์ในการกำหนดนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งสูงใกระทรวงการคลัง และเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการบีโอเจในปี 2003-2008
พรรค LDP เคยเสนอชื่อนายมูโตะให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจในปี 2008แต่พรรคประชาธิปไตย (DPJ) คัดค้านเรื่องนี้ ส่งผลให้นายมูโตะไม่ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยปัจจุบันนี้นายมูโตะดำรงตำแหน่งประธานสถาบันวิจัยไดวาของเอกชน
ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงในวันศุกร์และเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อมีข่าวว่านายมูโตะเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่ง เพราะทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่า ญี่ปุ่นจะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอย่างแข็งกร้าว เนื่องจากนายมูโตะมีความเห็นแบบสายกลางเมื่อเทียบกับตัวเก็งคนอื่นๆ
นายโนริฮิโระ ฟุจิโตะ นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบล.มิตซูบิชิ ยูเอฟเจมอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า "ตลาดมองว่านายมูโตะจะใช้วิธีการแบบดั้งเดิม อย่างเช่นการขยายขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ของบีโอเจ โดยสิ่งที่นายมูโตะทำจะเป็นเพียงแค่การเสริมความแข็งแกร่งให้แก่วิธีการแบบเดิมๆ"
"นายมูโตะจะไม่ทำในสิ่งที่กล้าหาญ อย่างเช่นการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศซึ่งการทำแบบนั้นอาจส่งผลให้เยนดิ่งลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น"
นายอาเบะเคยกล่าวในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เขาต้องการให้ผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอย่างกล้าหาญ
ถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่า นายอาเบะอาจจะเลือกม้ามืดจากแวดวงนักวิชาการที่สนับสนุนการใช้นโยบายแบบพิเศษ เช่น นายคิคุโอะ อิวาตะอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์ โดยการคาดการณ์ดังกล่าวเคยส่งผลให้เยนดิ่งลงและตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี นายทาโระ อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นและสมาชิกพรรค LDP หลายคนมองว่า ตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจควรจะเป็นของผู้ที่มีทักษะความสามารถสูงในด้านบริหารและการเจรจาต่อรอง
ตัวเก็งคนอื่นๆที่อาจได้รับเลือกจากนายอาเบะรวมถึง นายฮารุฮิโกะ คุโรดะประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) และนายคาสุมาสะ อิวาตะ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการบีโอเจพร้อมกับนายมูโตะ
ในช่วงที่นายชิราคาวะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจนั้น บีโอเจได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับใกล้ 0 % และได้ประกาศใช้นโยบายอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี นายชิราคาวะได้ถูกวิจารณ์ว่าดำเนินมาตรการอย่างเชื่องช้าเกินไปและใช้ความระมัดระวังมากเกินไป
หลังจากนายอาเบะพยายามกดดันบีโอเจอย่างรุนแรง บีโอเจก็ได้ประกาศมาตรการที่แข็งกร้าวที่สุดเท่าที่เคยดำเนินมาในเดือนม.ค. โดยบีโอเจปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อจาก 1 % สู่ 2 % และให้สัญญาว่าจะดำเนินมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยไม่ระบุวันสิ้นสุดโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2014 เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อบรรลุ
เป้าหมายดังกล่าว
ชื่อผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ที่นายอาเบะเสนอมาจำเป็นต้องได้รับการรับรองทั้งจากสภาสูงและสภาล่างของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี พรรค LDP ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาสูงของญี่ปุ่น ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในเรื่องนี้
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak
ถ้าหากนายมูโตะ วัย 69 ปี ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจสิ่งนี้ก็จะบ่งชี้ว่าบีโอเจจะเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะเงินฝืดมานานหลายปี โดยคาดกันว่าเขาจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกมากกว่านายมาซาอากิ ชิราคาวะ ผู้ว่าการบีโอเจคนปัจจุบัน แต่จะไม่ดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวมากเท่ากับตัวเก็งคนอื่นๆ
ทั้งนี้ นายมูโตะสนับสนุนให้บีโอเจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลประเภทที่มีอายุยาวนานกว่าในนโยบายปัจจุบัน และสนับสนุนให้บีโอเจขยายมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์อย่างแข็งกร้าวกว่านี้ อย่างไรก็ดี เขากล่าวเตือนว่าการพิมพ์เงินใหม่เพื่อชำระหนี้สาธารณะอาจก่อให้เกิดผลเสียได้ และอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น ซึ่งการทำเช่นนั้นอาจส่งผลให้ภาระหนี้ของรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้ หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นมีขนาดสูงกว่า 2 เท่าของมูลค่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น และถือว่าสูงที่สุดในบรรดาชาติอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ถ้อยแถลง
ดังกล่าวบ่งชี้ว่านายมูโตะจะดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังกว่าตัวเก็งคนอื่นๆ
นายมูโตะเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการบีโอเจมาแล้ว ขณะทื่แหล่งข่าวระบุว่าเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจในครั้งนี้ หลังจากที่เขาเคยได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน
แต่รัฐสภาญี่ปุ่นไม่ให้การอนุมัติ ส่งผลให้นายชิราคาวะได้ดำรงตำแหน่งนี้แทนในฐานะตัวเลือกที่เป็นผลจากการประนีประนอมกัน
ผู้กำหนดนโยบายและเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นบางคนกังวลว่า การดำเนินนโยบายอย่างรุนแรงอาจสร้างความปั่นป่วนในตลาด โดยนับตั้งแต่นายอาเบะผลักดันให้บีโอเจดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าว เยนก็ได้ดิ่งลงอย่างรุนแรงจนลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี และส่งผลให้หลายประเทศวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี นโยบายของนายอาเบะช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2008
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า "ดูเหมือนนายมูโตะจะได้รับเสียงสนับสนุนมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้" อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่านายมูโตะจะได้รับเลือกเนื่องจากเขายังคงต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาญี่ปุ่น
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายอาเบะและที่ปรึกษาของเขาได้ตัดรายชื่อตัวเลือกขั้นสุดท้ายลงเหลือ 2-3 คนแล้ว โดยได้ตัดนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนออกไป เพื่อเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานราชการสำหรับตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่
นายมูโตะเป็นตัวเก็งมานานแล้วสำหรับตำแหน่งนี้ โดยเขาอาจจะได้ดำรงตำแหน่งต่อจากนายชิราคาวะ วัย 63 ปี โดยนายชิราคาวะและรองผู้ว่าการบีโอเจสองคนจะก้าวลงจากตำแหน่งพร้อมกันในวันที่ 19 มี.ค.
นายมูโตะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสมาชิกรัฐสภาในพรรคเสรีประชาธิปไตย(LDP) ของนายอาเบะ และมีประสบการณ์ในการกำหนดนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งสูงใกระทรวงการคลัง และเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการบีโอเจในปี 2003-2008
พรรค LDP เคยเสนอชื่อนายมูโตะให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจในปี 2008แต่พรรคประชาธิปไตย (DPJ) คัดค้านเรื่องนี้ ส่งผลให้นายมูโตะไม่ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยปัจจุบันนี้นายมูโตะดำรงตำแหน่งประธานสถาบันวิจัยไดวาของเอกชน
ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงในวันศุกร์และเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อมีข่าวว่านายมูโตะเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่ง เพราะทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่า ญี่ปุ่นจะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอย่างแข็งกร้าว เนื่องจากนายมูโตะมีความเห็นแบบสายกลางเมื่อเทียบกับตัวเก็งคนอื่นๆ
นายโนริฮิโระ ฟุจิโตะ นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบล.มิตซูบิชิ ยูเอฟเจมอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า "ตลาดมองว่านายมูโตะจะใช้วิธีการแบบดั้งเดิม อย่างเช่นการขยายขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ของบีโอเจ โดยสิ่งที่นายมูโตะทำจะเป็นเพียงแค่การเสริมความแข็งแกร่งให้แก่วิธีการแบบเดิมๆ"
"นายมูโตะจะไม่ทำในสิ่งที่กล้าหาญ อย่างเช่นการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศซึ่งการทำแบบนั้นอาจส่งผลให้เยนดิ่งลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น"
นายอาเบะเคยกล่าวในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เขาต้องการให้ผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอย่างกล้าหาญ
ถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่า นายอาเบะอาจจะเลือกม้ามืดจากแวดวงนักวิชาการที่สนับสนุนการใช้นโยบายแบบพิเศษ เช่น นายคิคุโอะ อิวาตะอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์ โดยการคาดการณ์ดังกล่าวเคยส่งผลให้เยนดิ่งลงและตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี นายทาโระ อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นและสมาชิกพรรค LDP หลายคนมองว่า ตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจควรจะเป็นของผู้ที่มีทักษะความสามารถสูงในด้านบริหารและการเจรจาต่อรอง
ตัวเก็งคนอื่นๆที่อาจได้รับเลือกจากนายอาเบะรวมถึง นายฮารุฮิโกะ คุโรดะประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) และนายคาสุมาสะ อิวาตะ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการบีโอเจพร้อมกับนายมูโตะ
ในช่วงที่นายชิราคาวะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจนั้น บีโอเจได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับใกล้ 0 % และได้ประกาศใช้นโยบายอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี นายชิราคาวะได้ถูกวิจารณ์ว่าดำเนินมาตรการอย่างเชื่องช้าเกินไปและใช้ความระมัดระวังมากเกินไป
หลังจากนายอาเบะพยายามกดดันบีโอเจอย่างรุนแรง บีโอเจก็ได้ประกาศมาตรการที่แข็งกร้าวที่สุดเท่าที่เคยดำเนินมาในเดือนม.ค. โดยบีโอเจปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อจาก 1 % สู่ 2 % และให้สัญญาว่าจะดำเนินมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยไม่ระบุวันสิ้นสุดโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2014 เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อบรรลุ
เป้าหมายดังกล่าว
ชื่อผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ที่นายอาเบะเสนอมาจำเป็นต้องได้รับการรับรองทั้งจากสภาสูงและสภาล่างของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี พรรค LDP ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาสูงของญี่ปุ่น ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในเรื่องนี้
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak