ปัญหาจับปลา “แม็คเคอเรล” ทำยุโรปตีกันวุ่น ชี้ถึงเวลาต้องมี “คนกลาง” ช่วยไกล่เกลี่ย

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ริชาร์ด ล็อคเฮด รัฐมนตรีกิจการประมงของแคว้นสกอตแลนด์ออกโรงเรียกร้องให้มีผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศทำหน้าที่ “คนกลาง” ยุติความขัดแย้งเรื่องการจับปลา “แม็คเคอเรล” ระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์และหมู่เกาะฟาโร

ท่าทีล่าสุดของล็อคเฮดมีขึ้นระหว่างที่เขาเดินทางร่วมประชุมรัฐมนตรีด้านประมงของอียู ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยล็อคเฮดระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างอียูและนอร์เวย์ฝ่ายหนึ่ง กับคู่พิพาทคือฝ่ายของไอซ์แลนด์และหมู่เกาะฟาโรเกี่ยวกับโควต้าการจับปลาแม็คเคอเรล รวมถึงปลาเฮอร์ริง นั้นได้ทวีความรุนแรงถึงขั้นที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่อาจหาทางประนีประนอมกันได้อีกต่อไป และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี “คนกลางระหว่างประเทศ” เข้ามาไกล่เกลี่ยโดยเร็ว

ก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปและนอร์เวย์ได้ออกมากล่าวหาไอซ์แลนด์และหมู่เกาะฟาโรว่า ลักลอบเพิ่มปริมาณการจับปลาทั้ง 2 ชนิดอย่างขนานใหญ่โดยไม่คำนึงถึงความยั่งยืนและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และยังไม่มีแนวโน้มจะยุติการทำประมงในลักษณะดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ทางอียูต้องพิจารณาลงโทษ

ขณะที่รัฐบาลของไอซ์แลนด์และหมู่เกาะฟาโรออกมาตอบโต้อียูและนอร์เวย์ โดยยืนยันว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาปลาทั้ง 2 ชนิดได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากในน่านน้ำของตน สวนทางกับโควตาการจับปลาของทั้งไอซ์แลนด์และฟาโรที่ยังคงถูกจำกัดเอาไว้ที่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของการทำประมงทั้งหมด ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ

ซิกูร์เกียร์ ธอร์เกียร์สสัน หัวหน้าคณะผู้เจรจาด้านประมงของไอซ์แลนด์เผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สของสหรัฐฯ โดยยืนยันว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รูปแบบการอพยพของฝูงปลาแม็คเคอเรลในแอตแลนติกเหนือได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นเหตุปลาชนิดนี้เข้ามาแออัดกันอยู่ในน่านน้ำของไอซ์แลนด์มากกว่าปกติ ไอซ์แลนด์จึงมีความจำเป็นต้องจับปลาแม็คเคอเรลให้มากขึ้นเกินจากโควต้าปกติเพื่อรักษาความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมในน่านน้ำของตน มิให้เกิดผลกระทบกับสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ พร้อมย้ำว่าฝ่ายอียูและนอร์เวย์จงใจละเลยข้อเท็จจริงดังกล่าว และเอาแต่กล่าวหาไอซ์แลนด์กับหมู่เกาะฟาโรด้วยข้อมูลเก่าที่ล้าสมัย

“มันไม่ใช่ความผิดของเราเลยที่ฝูงปลาแม็คเคอเรลพากันอพยพเข้ามาในน่านน้ำของเราเพิ่มขึ้น พวกปลาแม็คเคอเรลต่างหากที่รุกรานน่านน้ำเรา ปลาพวกนี้มิใช่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมทะเลเพื่อความเพลิดเพลิน แต่พวกมันอพยพเข้ามาเพื่อกิน กิน และกินอย่างเดียวเท่านั้น มันเป็นความผิดของเราหรือที่ต้องจับพวกมันมากกว่าปกติเพื่อรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ” ธอร์เกียร์สสันกล่าว