รองนายกฯ ยกกรณี ปชป.ซักฟอกสัญชาติ “เติ้ง” ชี้จ้อต้องตรวจสอบอีก เย้ยจำนำข้าวข้อมูลเก่า ยันมีหน้าที่แจงแทนนายกฯ อ้างคนที่ศาลยังไม่พิพากษาก็ยังทำมาหากินได้ บอกม็อบเสธ.อ้ายแค่พักยก สั่งตำรวจพร้อม ก่อนโบ้ย ขรก.จัดการแทนรัฐ ด้านนักข่าว 7 สีโผล่ซักบ้าง เจ้าตัวทำเมิน เจอเหน็บใจไม่นักเลง สวนกลับลั่นเป็นคนขี้กลัว
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า รัฐบาลจะต้องรับฟังเพราะฝ่ายค้านมีการเสนออย่างเป็นระบบ แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบพร้อมกับยกตัวอย่างว่า ครั้งหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยอภิปราย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในสมัยที่เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 8 ชั่วโมง จนกระทั่งนายบรรหารถามตนว่า “เหลิม แล้วจริงๆ พี่เกิดที่ไหน ผมตอบว่าพี่เกิดสุพรรณฯ แต่พรรคประชาธิปัตย์บอกเลยว่าเกิดแผ่นดินใหญ่ มาเสิ่นเจิ้น มาฮ่องกง ลงเรือมาบางรัก และขึ้นเรือเดินทางเข้ามาประเทศไทย ก็ต้องตรวจสอบที่มาที่ไป”
เมื่อถามถึงการอภิปรายเรื่องรับจำนำข้าวของพรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์อยู่แล้ว และนำมารวบรวมเรียบเรียงก็ต้องรับฟังและตรวจสอบ แต่ตนพบปัญหาอยู่นิดเดียวในประเด็นรัฐธรรมนูญมาตรา 178 คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบร่วมกันกับนายกฯ งานใดที่นายกฯ ไม่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรี นายกฯ ต้องเป็นผู้ชี้แจงเอง แต่งานใดที่มอบมาแล้วในรายละเอียดรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงได้ เพื่อให้ฝ่ายค้านทราบข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องทุจริตตนรับผิดชอบ ฝ่ายค้านก็ไม่ให้ตนชี้แจงแล้วจะทราบเรื่องได้อย่างไร ตรงนี้คือปัญหา และคณะกรรมการนโยบายข้าว นายกฯ เป็นประธานจริง แต่คำสั่งขายหรือไม่ขายนั้น นายกฯ ไม่มีอำนาจ และการตรวจสอบการรับจำนำข้าวก็เป็นหน้าที่ของตน แต่ฝ่ายค้านไม่ให้ชี้แจง
เมื่อถามถึงคลิปที่ฝ่ายค้านนำมาเปิดในที่ประชุมนั้น เห็นบุคคลที่มีการทำความทุจริตชัดเจนจะดำเนินการอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ใครก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกก็ยังมีสิทธิในการทำมาหากิน ใครก็ตามที่มาซื้อก็ขายได้ แต่อย่าขายให้ต่ำกว่าท้องตลาด อย่างไรก็ตามยืนยันที่จะตรวจสอบต่อไป เมื่อพบการกระทำความผิดก็จับกุม เพราะนายกฯ สั่งการมาแล้ว
เมื่อถามว่าจะขอข้อมูล นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิมกล่าวว่า ได้บอกผ่านในที่ประชุมไปแล้วว่าใครมีข้อมูลก็ให้เอามาให้ เพราะตนไม่มีส่วนได้เสียใดๆ ทั้งสิ้นหากใครผิดก็ดำเนินคดี
เมื่อถามถึงการรายงานของ สมช.ที่ระบุว่าอาจจะมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลับมาอีกครั้ง รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นช่วงพักยก โดยเชื่อว่ามีหลายกลุ่ม และในเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ศาลอาญา รัชดาฯ ก็ได้มีการอ่านคำสั่งคดีของนายชาญณรงค์ พลศรีลา แนวร่วมคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ค. 53 คาดว่าการตัดสินดังกล่าวจะเป็นตัวเร่ง แต่ตนได้สั่งการให้ตำรวจเตรียมรับมือไว้แล้ว โดยวิธีการของตนนั้นจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยไม่มีทหาร ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ด้วยการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบดูแลโดยไม่เอารัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะไม่มีความชำนาญ นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งแน่นอน แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
เมื่อ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ถามในประเด็นที่ทำไมรัฐบาลทำงานกับบริษัทภาคเอกชนที่ทุจริต ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธทันทีที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวว่า“ผมไม่ตอบคุณ ผมตั้งใจไว้แล้วว่านักข่าวทั้งประเทศ รวมทั้งช่อง 7 ผมให้สัมภาษณ์ แต่ น.ส.สมจิตต์สัมภาษณ์ ผมไม่ตอบ” และกล่าวต่อว่าให้คนอื่นถามแทนแล้วตนจะตอบ โดยหลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น น.ส.สมจิตต์ได้พยายามยิงคำถามอีกครั้งว่า ประเมินการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งและจะส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างไรบ้าง “ไม่ได้ ผมเป็นลูกเสือ ไม่เสียสัตย์ บอกไว้เลยว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์” ขณะที่ น.ส.สมจิตต์กล่าวว่า “คิดว่าท่านจะใจนักเลงพอที่จะให้ต่างคนต่างทำหน้าที่” ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า “ผมไม่ใช่คนนักเลง ผมเป็นคนขี้กลัว ชีวิตนี้ขี้กลัวจะตายไป”
