“อุดมเดช” เชื่อ “ปู” ไม่หนักใจถูกซักฟอกพรุ่งนี้ “เด็จพี่” เย้ยฝ่ายค้านตัดแปะ-จืดสนิท

วิปรัฐฯ เผยรับได้ซักฟอกรัฐบาลวันแรก แม้พาดพิงก็ประท้วงเล็กน้อย เชื่อพรุ่งนี้นายกฯ ไม่หนักใจตอบคำถามเพราะมีทีมงาน ส่วนการตรวจสอบหลักฐานของฝ่ายค้าน เชื่อไม่เป็นอุปสรรค ด้านโฆษกพรรคเพื่อไทยกลัวตกขบวน ออกข่าวเย้ยฝ่ายค้านเอาข้อมูลเก่าตัดแปะ ถามกลับทำไม “อภิสิทธิ์” ไม่ซักฟอก “สุกำพล” เอง เหน็บไม่มีข้อมูลเด็ดอย่างที่คุย จืดชืดสนิทแต่วันแรก อ้างพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันให้คะแนนไม่ผ่าน

วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 19.30 น. ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 วันที่ผ่านมา ตนคิดว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมายังเป็นเรื่องปกติอยู่ ส่วนประเด็นที่มีการพาดพิงกันบ้าง ถือเป็นการประท้วงเล็กน้อย ที่โดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ส่วนในวันที่สองจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น.เช่นเดียวกับวันแรก ส่วนการอภิปรายในสองวันที่เหลือมีการพุ่งเป้าไปที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่าฝ่ายบริหารที่จะตอบคงมีการเตรียมข้อมูลแล้ว อีกทั้งนายกฯ ก็คงมีทีมที่จะรวบรวมที่จะไว้ตอบข้อซักถามจากฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่น่าหนักใจ

ทั้งนี้ กรณีที่ฝ่ายค้านต้องการเปิดคลิปวิดีโอเพื่อใช้ประกอบการอภิปรายนั้นจะเป็นอุปสรรคในการตรวจสอบหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรในการอภิปรายหลายครั้งที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นายชัย ชิดชอบ ในฐานะประธานรัฐสภาได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูรายละเอียดข้อมูลที่ใช้อภิปราย ทั้งที่เป็นเอกสาร และคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มาจากทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน แต่ในสมัยของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน ได้ตั้งข้าราชการรัฐสภามาทำหน้าที่แทน ซึ่งเวลาที่ผู้อภิปรายต้องการเปิดคลิปจึงต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งปัญหาก็คือข้าราชการประจำมักจะไม่กล้าท้วงติงฝ่ายการเมือง ตนเห็นว่านายสมศักดิ์ที่เป็นปรธานคนปัจจุบันน่าจะออกคำสั่งใหม่ในเรื่องนี้แทนคำสั่งเดิมที่นายชัยประธานคนเก่าได้ตั้งไว้

ก่อนหน้านี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันแรกว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี เพียงแต่ข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นแค่เรื่องเก่าที่นำมาตัดแปะแล้วเอามาเล่าใหม่ ทั้งนี้ การกล่าวหานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีนั้นก็ยังไม่ชัดเจนรัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ขึ้นมากล่าวเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือนายอภิสิทธิ์ยังไม่กล้าอภิปราย รมว.กลาโหมเพราะยังไม่มั่นใจในคุณสมบัติของตัวเองใช่หรือไม่ หรือกลัวว่า รมว.กลาโหมจะนำข้อมูลมาสวนกลับ จึงมอบหมายให้ตัวแทนออกมาอภิปราย รมว.กลาโหมในวันแรก จนเหมือนน่าจะเป็นการชำระแค้นกรณีที่ถูกกระทรวงกลาโหมถอดยศมากกว่า

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า การอภิปรายที่ฝ่ายค้านคุยว่ามีข้อมูลเด็ดนั้นก็ยังไม่เห็นมีอะไรเด็ดอย่างที่คุยไว้ ทั้งนี้ การอภิปรายในวันแรกแต่ฝ่ายค้านจะอภิปรายรัฐมนตรีถึง 3 คนในวันเดียวนั้น เหมือนกับว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูล จึงต้องอภิปรายแบบเสียไม่ได้ การกล่าวหาต่างๆ ก็ปราศจากหลักฐาน การโชว์เอกสารต่างๆ ก็ดูแล้วจืดชืด เหมือนว่าการอภิปรายในวันแรกนั้นเป็นแค่องค์ประกอบ แต่เป้าหมายหลักคือการจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีใน 2 วันสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในวันแรก เพราะขนาดเพื่อน ส.ส.ที่อยู่พรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคยังถึงกับบ่นกับตนว่าโชคดีแล้วที่ครั้งนี้พรรคการเมืองของเพื่อน ส.ส.คนดังกล่าวไม่ได้ร่วมอภิปรายด้วย เพราะจืดสนิทตั้งแต่วันแรก ดังนั้นการอภิปรายในวันแรกจึงถือว่ารัฐบาลสอบผ่านขณะที่ฝ่ายค้านสอบตก เพราะขนาดพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันก็ยังให้คะแนนไม่ผ่านเลย