รอยเตอร์ - สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งในสหรัฐฯยื่นคำร้องต่อกระทรวงพาณิชย์ให้เก็บอากรลงโทษกุ้งนำเข้ามูลค่านับพันล้านดอลลาร์จาก 7 ประเทศ ได้แก่ จีน, เวียดนาม, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และเอกวาดอร์ เพื่อชดเชยการอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาล วานนี้(28)
“การยื่นคำร้องในวันนี้เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของอุตสาหกรรมกุ้งในสหรัฐฯทั้งหมด” ซี. เดวิด วีล ผู้อำนวยการสมาคมอุตสาหกรรมกุ้งแห่งอ่าวเม็กซิโก ระบุในแถลงการณ์
สมาคมดังกล่าวเป็นตัวแทนผู้เลี้ยงกุ้งในรัฐแอละแบมา, ฟลอริดา, จอร์เจีย, ลุยเซียนา, มิสซิสซิปปี และเท็กซัส ซึ่งโอดครวญว่า พวกเขาต้องเสียส่วนแบ่งตลาดให้แก่กุ้งนำเข้าจาก 6 ประเทศเอเชียและเอกวาดอร์ ซึ่งมีราคาถูกกว่า
“ชาวประมงผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง, คนงานท่าเรือ และผู้แปรรูปกุ้งของเรา ล้วนแต่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมแถบอ่าวเม็กซิโกมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นตัวตัดสินว่า เราจะยังสามารถสร้างงาน, ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และรักษาชุมชนรอบอ่าวเม็กซิโกให้อยู่รอดในอีกหลายปีข้างหน้าได้หรือไม่” วีล กล่าว
ข้อเรียกร้องจากสมาคมผู้เพาะเลี้ยงกุ้งอาจสร้างความลำบากใจแก่สหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาเขตการค้าเสรีกับ 2 ประเทศที่ถูกร้องเรียน ได้แก่ เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งหากสหรัฐฯเรียกเก็บอากรลงโทษจริง อาจทำให้ทั้ง 2 ประเทศลังเลที่จะยอมเปิดตลาดในภาคส่วนอื่นๆตามที่สหรัฐฯเรียกร้อง
สหรัฐฯมีการนำเข้ากุ้งจาก 7 ประเทศดังกล่าวเป็นมูลค่าสูงถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2011 หรือราวๆ 85% ของกุ้งที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของตลาดในประเทศ สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งระบุ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯยังมีเวลาอีกหลายสัปดาห์ที่จะพิจารณาว่าจะสอบสวนเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การสั่งเก็บอากรลงโทษกุ้งนำเข้าจะมีผลบังคับได้ภายในสิ้นปี 2013 หากตรวจสอบพบว่า สินค้าเหล่านี้ได้รับการอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจริง