วานนี้ (26 พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยสอบถามความคิดเห็นผู้แทนชุมชนต่างๆทั่วประเทศ จากการจัดประชุมวิทยากรชุมชนที่เป็นผู้แทนทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อหาทางออกของประเทศไทย จำนวน 200 คน พบว่า ปัญหาของประเทศไทยที่สะท้อนมาจากชุมชนในจังหวัดต่างๆ 34.92 % ปัญหาเรื่องความขัดแย้งของนักการเมือง วิธีการแก้ไข คือ ปลูกจิตสำนึกให้กับนักการเมือง พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ 20.63% ปัญหาเรื่องปากท้อง ความเป็นอยู่ของประชาชน วิธีการแก้ไข คือ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระจายความเจริญให้ทั่วถึง ฯลฯ 16.68% ปัญหาเรื่องยาเสพติด แหล่งอบายมุข วิธีการแก้ไข คือ ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเคร่งครัด ลงโทษจริงจัง ฯลฯ 14.28% ปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา วิธีการแก้ไข คือ ขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง สนับสนุนทางการศึกษา ฯลฯ และ 13.49% ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม วิธีการแก้ไข คือ ปรับโครงสร้างทางสังคมเพื่อลดช่องว่างทางสังคม ฯลฯ
เมื่อถามถึงแนวทางหรือวิธีการที่จะช่วยหาทางออกให้ประเทศไทย 33.72% สร้างความรู้ความเข้าใจทางการเมืองให้แก่ประชาชน 23.43% การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมโดยเฉพาะภาคประชาชน 17.66% ควรจะมีการจัดเวทีแสดงความคิดเห็นกระจายไปทั่วประเทศ 13.14% เชิดชูคนดี เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับสังคม และ 12.05% ปฏิบัติตนในทางที่ถูกต้อง เป็นกลาง ไม่สร้างปัญหาให้แก่สังคม
เมื่อถามถึง สิ่งที่อยากฝากบอกแต่ละฝ่าย แต่ละกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายรัฐบาล 54.92% ทำงานโดยยึดประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 24.59% หยุดคอรัปชั่น ต้องซื่อสัตย์สุจริต ยึดหลักธรรมาภิบาล และ20.49% แก้ปัญหาอย่างจริงจังโดยเฉพาะการสร้างความปรองดอง
ฝ่ายค้าน 42.58% ต้องค้านอย่างสร้างสรรค์ มีเหตุและผล ไม่ใช้อคติส่วนตัว 33.66% การตรวจสอบหรือคานอำนาจต้องทำอย่างถูกต้องเหมาะสม และ 23.76% ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
ฝ่ายนักการเมือง 57.26% ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม 31.62% ทำงานให้เต็มที่สมกับที่ประชาชนไว้วางใจหรือเลือกเข้ามา และ 11.12% มีความสามัคคี ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก หยุดทะเลาะเบาะแว้ง
ฝ่ายทหาร 41.75% ต้องซื่อสัตย์ คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 37.86% วางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และ 20.39% จะต้องอดทน ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
ฝ่ายตำรวจ 44.66% การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ดูแลสังคมให้สงบสุข 42.72% ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ และ 12.62% วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
ฝ่ายข้าราชการพลเรือนทั่วไป 81.55% ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ เป็นขรก.ที่ดีของบ้านเมือง 13.59% มุ่งมั่นตั้งใจ ทำงานให้เต็มที่ พัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวหน้า และ 4.86% จะต้องเป็นกลาง ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ฝ่ายนักวิชาการ 52.94% ถ่ายทอดความรู้ เผยแพร่สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคม 33.09% เป็นมันสมอง เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ และ 13.97% ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ฝ่ายคนเสื้อแดง 47.83% มีสติ มีเหตุผล ยอมรับฟังความคิดเห็น ไม่ใช้ความรุนแรง 31.52% ต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย อยู่ในระบอบประชาธิปไตย และ 20.65% การแสดงออกที่เหมาะสม คำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ
ฝ่ายคนเสื้อเหลือง 50.52% รับฟังความคิดเห็นอย่างมีสติ มีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ตัดสิน 28.87% ยึดปฏิบัติตามกฎหมาย แสดงออกตามความเหมาะสม และ 20.61% ขอให้นึกถึงประเทศชาติและส่วนรวมเป็นสำคัญ
ฝ่ายคนที่ไม่มีสีใดๆ 38.14% รับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นต่างๆ ด้วยสติ ยึดเหตุผลเป็นสำคัญ 37.11% เคารพกฎหมาย อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และ 24.75% รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง เป็นกลาง วางตัวให้เหมาะสม
ฝ่ายผู้นำชุมชน 39.47% เป็นผู้นำที่ดี ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง 36.84% นำเสนอความคิดเห็นหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน และ 23.69% สร้างความสามัคคีในชุมชน มีความเสียสละทุ่มเท
ฝ่ายผู้นำศาสนา 56.79% ปลูกฝังให้ประชาชนมีจิตสำนึกที่ดีโดยใช้หลักธรรมคำสอนของศาสนา 24.69% เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชน และ 18.52% ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อำนาจและผลประโยชน์ต่างๆ.
เมื่อถามถึงแนวทางหรือวิธีการที่จะช่วยหาทางออกให้ประเทศไทย 33.72% สร้างความรู้ความเข้าใจทางการเมืองให้แก่ประชาชน 23.43% การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมโดยเฉพาะภาคประชาชน 17.66% ควรจะมีการจัดเวทีแสดงความคิดเห็นกระจายไปทั่วประเทศ 13.14% เชิดชูคนดี เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับสังคม และ 12.05% ปฏิบัติตนในทางที่ถูกต้อง เป็นกลาง ไม่สร้างปัญหาให้แก่สังคม
เมื่อถามถึง สิ่งที่อยากฝากบอกแต่ละฝ่าย แต่ละกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายรัฐบาล 54.92% ทำงานโดยยึดประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 24.59% หยุดคอรัปชั่น ต้องซื่อสัตย์สุจริต ยึดหลักธรรมาภิบาล และ20.49% แก้ปัญหาอย่างจริงจังโดยเฉพาะการสร้างความปรองดอง
ฝ่ายค้าน 42.58% ต้องค้านอย่างสร้างสรรค์ มีเหตุและผล ไม่ใช้อคติส่วนตัว 33.66% การตรวจสอบหรือคานอำนาจต้องทำอย่างถูกต้องเหมาะสม และ 23.76% ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
ฝ่ายนักการเมือง 57.26% ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม 31.62% ทำงานให้เต็มที่สมกับที่ประชาชนไว้วางใจหรือเลือกเข้ามา และ 11.12% มีความสามัคคี ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก หยุดทะเลาะเบาะแว้ง
ฝ่ายทหาร 41.75% ต้องซื่อสัตย์ คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 37.86% วางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และ 20.39% จะต้องอดทน ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
ฝ่ายตำรวจ 44.66% การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ดูแลสังคมให้สงบสุข 42.72% ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ และ 12.62% วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
ฝ่ายข้าราชการพลเรือนทั่วไป 81.55% ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ เป็นขรก.ที่ดีของบ้านเมือง 13.59% มุ่งมั่นตั้งใจ ทำงานให้เต็มที่ พัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวหน้า และ 4.86% จะต้องเป็นกลาง ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ฝ่ายนักวิชาการ 52.94% ถ่ายทอดความรู้ เผยแพร่สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคม 33.09% เป็นมันสมอง เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ และ 13.97% ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ฝ่ายคนเสื้อแดง 47.83% มีสติ มีเหตุผล ยอมรับฟังความคิดเห็น ไม่ใช้ความรุนแรง 31.52% ต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย อยู่ในระบอบประชาธิปไตย และ 20.65% การแสดงออกที่เหมาะสม คำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ
ฝ่ายคนเสื้อเหลือง 50.52% รับฟังความคิดเห็นอย่างมีสติ มีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ตัดสิน 28.87% ยึดปฏิบัติตามกฎหมาย แสดงออกตามความเหมาะสม และ 20.61% ขอให้นึกถึงประเทศชาติและส่วนรวมเป็นสำคัญ
ฝ่ายคนที่ไม่มีสีใดๆ 38.14% รับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นต่างๆ ด้วยสติ ยึดเหตุผลเป็นสำคัญ 37.11% เคารพกฎหมาย อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และ 24.75% รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง เป็นกลาง วางตัวให้เหมาะสม
ฝ่ายผู้นำชุมชน 39.47% เป็นผู้นำที่ดี ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง 36.84% นำเสนอความคิดเห็นหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน และ 23.69% สร้างความสามัคคีในชุมชน มีความเสียสละทุ่มเท
ฝ่ายผู้นำศาสนา 56.79% ปลูกฝังให้ประชาชนมีจิตสำนึกที่ดีโดยใช้หลักธรรมคำสอนของศาสนา 24.69% เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชน และ 18.52% ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อำนาจและผลประโยชน์ต่างๆ.
