เอเอฟพี - เฮอริเคนไอแซคเริ่มทำให้มีฝนตกหนักในมลรัฐลุยเซียนาของสหรัฐฯ วานนี้ (28) และกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งเคยเผชิญหายนะครั้งใหญ่จากเฮอริเคน “แคทรีนา” ไปเมื่อ 7 ปีก่อน
พายุโซนไอแซคยกระดับเป็นเฮอริเคนตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (28) ด้วยความเร็วลมที่ศูนย์กลางราว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (NHC) ประกาศเตือน “คลื่นพายุซัดฝั่งรุนแรง” ตลอดแนวชายฝั่งตอนเหนือของอ่าวเม็กซิโก และเริ่มมีรายงานคลื่นสูงถึง 2.4 เมตรตามชายฝั่งรัฐลุยเซียนา, มิสซิสซิปปี และฟลอริดา ก่อนหน้าที่ไอแซคจะกลายเป็นเฮอริเคนระดับ 1 เพียงไม่นานนัก
รัฐบาลท้องถิ่นลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้การบรรเทาทุกข์และของบประมาณฉุกเฉินจากรัฐบาลกลางเป็นไปอย่างสะดวก
บ็อบบี จินแดล ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนาเตือนให้ประชาชนเตรียมรับสถานการณ์ขั้นร้ายแรงที่สุด และได้เตรียมหน่วยเนชันแนลการ์ดจำนวน 4,000 นาย และเรืออีก 48 ลำในเมืองนิวออร์ลีนส์ ไว้ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
มิตช์ ลันดริเยอร์ นายกเทศมนตรีเมืองนิวออร์ลีนส์ คาดว่าอิทธิพลของเฮอริเคนจะส่งผลให้มีปริมาณฝนถึง 40 เซนติเมตรหรือกว่านั้น เนื่องจากพายุเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ดังกล่าวไปอย่างช้าๆ
ด้าน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำให้พลเมืองปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด พร้อมเตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและความเสียหายครั้งใหญ่
“ผมขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และปฏิบัติตามหากมีคำสั่งให้อพยพ”
การมาของเฮอริเคนไอแซคซึ่งตรงกับช่วงครบรอบ 7 ปีภัยพิบัติเฮอริเคนแคทรีนา ทำให้ชาวเมืองนิวออร์ลีนส์ต้องหวนคิดถึงความทรงจำอันเจ็บปวด
“มันทำให้เรานึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว” เมโลดี บาร์คัม วัย 56 ปี เผย พร้อมเล่าว่า เธอต้องติดอยู่บนหลังคาบ้านนานหลายวันโดยปราศจากทั้งอาหารและน้ำดื่ม หลังเฮอริเคนแคทรีนาพัดถล่มเมืองแห่งนี้ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปี 2005
“แต่ฉันไม่กลัวนะ ถ้าฉันรอดจากแคทรีนามาได้ ครั้งนี้ฉันก็ต้องรอดเหมือนกัน”