เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ชาวอเมริกัน ชี้การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนถือเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึง “ความสำเร็จอันยอดเยี่ยม” ของมวลมนุษยชาติ แต่ “ความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ” ที่เกิดขึ้นในแดนมังกร กำลังส่งผลให้เกิดการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวงต่อทุกชีวิตบนโลก
ครุกแมน วัย 59 ปี ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2008 กล่าวระหว่างเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในเวทีประชุมที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส เมื่อวันพุธ (12) โดยระบุว่า การพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาไม่นานของสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การผลักดันของพรรคคอมมิวนิสต์แดนมังกรนั้น ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ซึ่งยากที่จะมีใคร “ลอกเลียนแบบ” ได้อีก
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จจากการปฏิรูปทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในจีนที่เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1978 ซึ่งเปลี่ยนจีนจากประเทศเกษตรกรรมล้าหลัง ให้กลายเป็นดินแดนที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดของโลก จนขึ้นแท่นเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯในขณะนี้นั้น กลับกำลังสร้างหายนะให้กับทั่วโลกอย่างเลวร้าย จากการที่จีนเป็น “ผู้ร้ายอันดับหนึ่ง” ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยขาดความรับผิดชอบ
ครุกแมนชี้ว่า จีนซึ่งมีประชากรมากกว่า 1.3 พันล้านคน และเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเลวร้ายยิ่งขึ้น จากการที่รัฐบาลและภาคเอกชนของจีนต่างเดินหน้า “ถลุง” ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งในประเทศตัวเอง และนอกประเทศอย่างไม่มีขีดจำกัด เพื่อนำไปพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของตน
“พวกเราทุกคนต่างเจ็บปวดและได้รับผลกระทบจากการทุ่มเทพัฒนาเศรษฐกิจขนานใหญ่ของจีน และผมขอยืนยันว่าการเติบโตของจีนอาจต้องแลกมาด้วยความสูญเสียของมวลมนุษยชาติ” ครุกแมนกล่าว
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลผู้นี้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯแสดงบทบาทให้มากขึ้นในการกดดันจีนในเรื่องนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาสภาพแวดล้อม แต่ครุกแมนเตือนว่า รัฐบาลอเมริกันจะต้องกดดันจีน บนพื้นฐานของการหลีกเลี่ยงมิให้เกิด “บรรยากาศแห่งการเผชิญหน้า” ซึ่งจะไม่เป็นผลดีทั้งต่อสหรัฐฯ และจีน รวมถึงเศรษฐกิจโลกในภาพรวม
“ถึงแม้เราจะตราหน้ารัฐบาลจีนและการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนว่าสร้างความเจ็บปวดต่อเรา แต่เราต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่าควรทำอย่างไรกับจีน เราจะเอาระเบิดนิวเคลียร์ไปถล่มจีนอย่างนั้นหรือ หรือว่าเราจะดำเนินนโยบายการค้าแบบแข็งกร้าวใส่จีน ผมเชื่อว่าทั้ง 2 วิธีจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดแก่เราเลย” ครุกแมนกล่าวย้ำ
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของพอล ครุกแมน มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้มีชาวจีนราว 300 ล้านคนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำที่สะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภค ขณะที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของแม่น้ำลำคลองในสาธารณรัฐประชาชนจีนขณะนี้ถูกปนเปื้อนจากของเสียและสารพิษนานาชนิด ทั้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม
