เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจของ “แกลลัปโพล” ชี้ คนไทยเป็นชนชาติที่มองโลกในแง่ดีและมีอารมณ์เชิงบวกเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชียและติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนคนสิงคโปร์รั้งตำแหน่งสุดยอดชนชาติ “มองโลกแง่ร้าย” และ “ไร้ความสุข” มากที่สุด
ผลสำรวจของแกลลัปซึ่งเก็บข้อมูลใน 148 ดินแดนทั่วโลกในปีที่ผ่านมา และมีการเผยแพร่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในวันพุธ (19) ระบุว่า ประชาชนที่อาศัยในประเทศปานามา ในภูมิภาคอเมริกากลาง และในประเทศปารากวัยในทวีปอเมริกาใต้ ครองอันดับ 1 ร่วมกันในฐานะชนชาติที่มองโลกในแง่ดีและมีอารมณ์ในเชิงบวกมากที่สุด จากการทดสอบซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่อาศัยในประเทศทั้งสองได้คะแนนถึงร้อยละ 85 จากเกณฑ์การประเมินความสุข 5 ข้อของแกลลัป ซึ่งรวมถึงจำนวนของการยิ้ม การหัวเราะในแต่ละวัน การได้พักผ่อนเพียงพอ การรู้สึกมีความสุขกายสบายใจระหว่างวัน การรู้สึกได้รับการเคารพหรือยอมรับ ตลอดจนการได้ลงมือทำในสิ่งที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในแต่ละวัน
ส่วนชาวเอลซัลวาดอร์ และเวเนซุเอลา ได้คะแนนลดหลั่นลงมาที่ร้อยละ 84 เท่ากัน ตามมาด้วยคนไทย และชาวหมู่เกาะตรินิแดดแอนด์โตเบโกในทะเลแคริบเบียน ที่ได้ร้อยละ 83 เท่ากันจากเกณฑ์ประเมินทั้ง 5 ข้อ รองลงมาคือชาวกัวเตมาลา และชาวฟิลิปปินส์ ที่ได้ร้อยละ 82 เท่ากัน ส่วนชาวเอกวาดอร์ และคอสตาริกาได้ร้อยละ 81 เท่ากัน
ผลสำรวจที่ออกมาสรุปได้ว่า ใน 10 อันดับแรกของบรรดาชนชาติที่คิดบวก มองโลกในแง่ดี และมีความสุขในการดำเนินชีวิตมากที่สุดในโลกนั้นมีชาติจากเอเชียติดโผเพียง 2 ชาติเท่านั้น คือ คนไทย ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ ส่งผลให้คนไทยได้ครองแชมป์สุดยอดชนชาติที่ “มีความสุขที่สุดของทวีปเอเชีย” ไปโดยปริยาย
ในทางกลับกัน ผลสำรวจพบว่าคนที่อาศัยในสิงคโปร์เป็นผู้ที่มีอารมณ์เชิงลบระหว่างวัน และมองโลกคับแคบที่สุดในโลก โดยชาวสิงคโปร์ได้คะแนนจากเกณฑ์การประเมินความสุขระหว่างวันทั้ง 5 ข้อของแกลลัป เพียงแค่ร้อยละ 46 เท่านั้น ทั้งที่ชาวสิงคโปร์เป็นหนึ่งในชนชาติที่ร่ำรวยและมีฐานะทางเศรษฐกิจดีที่สุดในโลก ส่วนชนชาติที่ได้คะแนนน้อยรองลงมาจากสิงคโปร์ คือ ชาวอาร์เมเนีย และชาวอิรักที่ได้คะแนนความสุขระหว่างวันที่ร้อยละ 49 และ50 ตามลำดับ ขณะที่ชาวจอร์เจีย เยเมน และเซอร์เบีย อยู่ที่ร้อยละ 52 เท่ากัน
ทีมนักวิเคราะห์ของแกลลัปเผยว่า พวกเขาถึงกับตะลึงกับผลการสำรวจที่ออกมา เนื่องจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ประชาชนที่อาศัยในประเทศร่ำรวยและมีเศรษฐกิจดี ไม่จำเป็นต้องมีความสุขเสมอไป เห็นได้จากกรณีของปานามาที่เป็นชาติที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและรายได้ในอันดับที่ 90 ของโลก กลับกลายเป็นชนชาติที่มีอารมณ์เชิงบวกและมีความสุขในแต่ละวันของชีวิตมากที่สุด สวนทางกับชาวสิงคโปร์ที่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจและมีรายได้ต่อหัวติดอันดับต้นๆ ของโลกทุกปี แต่กลับกลายเป็นชนชาติที่ไร้ความสุขในชีวิตและมองโลกติดลบมากที่สุด
ด้านดาเนียล คาห์เนมัน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล และแองกัส ดีตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในสหรัฐฯ ต่างออกมาให้ความเห็นที่สอดคล้องกันว่า การมีรายได้สูงไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า หรือมีความสุขมากกว่าเสมอไป และถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจหากจะพบว่าผู้คนที่อาศัยในดินแดนที่มุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจจนมีจีดีพีเติบโตพุ่งพรวด มักใช้ชีวิตอย่างเคร่งเครียด ปราศจากความสุข เพราะในแต่ละวัน คนกลุ่มนี้ต้องตกอยู่ภายใต้ภาวะแวดล้อมของการ “แก่งแย่งแข่งขัน” ตลอดเวลา โดยคาห์เนมันและดีตันชี้ว่า ถึงเวลาแล้วที่บรรดาผู้นำประเทศทั่วโลกต้องทบทวนว่า “จีดีพีที่สูงลิ่ว” สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้จริงหรือไม่