สื่อนอกตีข่าวตำรวจไทยใช้ “แก๊สน้ำตา” สลายประท้วง-ลือมีแผนจับ “ยิ่งลักษณ์” เป็นตัวประกัน

เอเจนซีส์ - สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวการประท้วงของ “องค์การพิทักษ์สยาม” ซึ่งถือเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาลครั้งใหญ่และครั้งแรกในยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อกลางปีที่แล้ว

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำกล่าวของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งระบุว่า “ถ้าล้มรัฐบาลนี้ไม่ได้ ผมพร้อมที่จะตาย” และขอร้องให้กองทัพออกมาปกป้องประชาชน ก่อนที่สายฝนจะตกลงมาอย่างหนักในช่วงเย็นวานนี้ (24) และมีการประกาศยกเลิกชุมนุมก่อนกำหนด

องค์การพิทักษ์สยามกล่าวหารัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าทุจริตคอร์รัปชัน เป็นเพียงหุ่นเชิดของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชายของเธอเอง และไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วงเมื่อวานนี้ (24) ด้วยก็คือกลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้นายทหารระดับสูงของกองทัพก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลทักษิณในปี 2006

กิจกรรมขององค์การพิทักษ์สยามเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และได้กล่าวยกย่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าเป็น “นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และมีเจตนารมณ์ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย”

สัญญาณความรุนแรงเริ่มขึ้นในช่วงเช้า เมื่อผู้ประท้วงราว 500 คนพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจที่สะพานมัฆวานรังสรรค์และแยกมิสกวัน เพื่อไปสมทบกับผู้ชุมนุมอีก 15,000 คนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ประท้วงเพิกเฉยต่อคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอให้เดินไปตามช่องทางที่จัดไว้ให้ และขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ จนในที่สุดตำรวจต้องตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา

การปะทะดังกล่าวส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 42 ราย รวมถึงตำรวจ 7 นาย ตามข้อมูลจากศูนย์เอราวัณ ขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงอีก 132 คน และสามารถยึดอาวุธจำพวกมีดและกระสุนปืนได้จากผู้ประท้วงบางรายด้วย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือว่านายกรัฐมนตรีหญิงของไทยอาจถูกจับเป็นตัวประกัน และจะมีผู้ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลนับล้านคน ซึ่งเมื่อวิเคราะห์สถานการณ์แล้ว ทางการไทยจึงส่งเจ้าหน้าที่ 17,000 นายเข้าควบคุมบริเวณการประท้วง และประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ประท้วง, ปิดถนน, ประกาศเคอร์ฟิว หรือตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ในบางพื้นที่

ผศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า “การใช้แก๊สน้ำตากับผู้ประท้วงถือเป็นสัญญาณร้าย และทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2008 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา”

ผู้ที่มาร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามต่างชูป้ายรูปนายกฯยิ่งลักษณ์ พร้อมข้อความว่า “PM=Puppet Moron” ขณะที่บางคนชูธงสีเหลืองซึ่งแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

พล.อ.บุญเลิศกล่าวต่อผู้ชุมนุมว่า “ผมขอบอกทักษิณว่า ถ้าเขาจะกลับเมืองไทย เขาต้องยอมก้มหัวให้ในหลวง และยอมติดคุกเสียก่อน... ทั่วโลกจะได้เห็นว่ารัฐบาลนี้มันโกงกินและโหดร้าย จะได้เห็นว่ามันเป็นแค่รัฐบาลหุ่นเชิดเท่านั้น”

ประเทศไทยมีการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา โดยกลุ่มสนับสนุนทักษิณ และต่อต้านทักษิณ ต่างผลัดกันออกมาวิจารณ์สิทธิในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มา