ตรงเป้า
ศรรามา
ไม่ว่าประธานาธิบดีโอบามา จะไปประเทศนั้น มันก็วุ่นวายเหมือนกับมาเยือนไทย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นี่แหละ ซึ่งก่อนหน้านั้นร่วมสัปดาห์ ทีมรักษาความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกา เข้าทำเนียบรัฐบาลตรวจสอบทุกตารางนิ้ว รวมทั้งอาคารสูงนอกทำเนียบ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ที่พำนักค้างคืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ที่โอบามาจะไปปรากฏกาย
มีการปิดถนนหนทางบริเวณนั้น แม้กระทั่งหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ห้ามเปิดหน้าต่าง ห้ามตากเสื้อผ้า และห้ามนิสิตออกมานอกห้องพัก จึงเป็นความอึดอัดของคนไทยจำนวนไม่น้อย และในความรู้สึกมันบ่งบอกว่า
“เกินกว่าเหตุ” ราวกับว่า มีขบวนการจ้องสังหารโอบามาในไทย แม้จะเป็นปฏิบัติการปกติในการอารักขา รักษาความปลอดภัยให้แก่บุคคลหมายเลข 1 ของโลก ก็ดีแล้วที่โอบามานอนเมืองไทยเพียงคืนเดียว
รถเก๋งหุ้มเกราะของโอบามา ถูกลำเลียงโดยเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองล่วงหน้า ถ้วยโถโอชามก็ส่งตรงจากอเมริกามาเช่นกัน แม้แต่อาหารค่ำที่นายกรัฐมนตรีไทยจัดเลี้ยงต้อนรับ ก็มีทีมงานของอเมริกาเข้าไปกำกับดูแลขั้นตอนการปรุงอย่างใกล้ชิด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบด้านรักษาความปลอดภัย โดยมีตำรวจทหารและหน่วยงานด้านการข่าวเป็นฝ่ายปฏิบัติ “ดอกเตอร์เหลิม” คงมีโอกาสสัมผัสมือกับโอบามา แต่ไม่รู้ว่าจะพูดจาภาษาอังกฤษกันรู้เรื่องหรือเปล่า
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ระดมตำรวจ 3,500 นาย จากนครบาล สันติบาล ตระเวนชายแดน และภูธร 1 มาใช้ในงานนี้ ซึ่งไม่น่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นให้เสียหน้าเสียชื่อประเทศไทย และคงไม่หนักหนาเท่ากับการรวมพลของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า จะเอาตำรวจ 5 หมื่นนาย มาควบคุมดูแลม็อบ โดยอ้างรายงานข่าวจะมีมือที่ 3 มาป่วนม็อบ เสธ.อ้าย
อย่าว่าแต่ชาวบ้านร้านช่องเลย ตำรวจเองยังสงสัยว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะไปเกณฑ์ตำรวจจากไหนมาถึงครึ่งแสน ก็คงเป็นเรื่องเอาตัวเลขมาเกทับกัน เพราะ พล.อ.บุญเลิศ บอกว่า จะมีผู้ชุมนุมถึงล้านคน บ้านนี้เมืองนี้ชักจะเพี้ยนกันใหญ่
แต่ที่ไม่เพี้ยนอยู่ที่ 3 จังหวัดภาคใต้ มีเหตุการณ์ต้อนรับโอบามาถี่ยิบ ทั้งตายและเจ็บเกลื่อนเมือง เริ่มจาก จยย.บอมบ์กลางเมืองยะลา คนร้ายขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกระเบิด ไปจอดหน้าตึกแถวย่านการค้า ถนนสิโรรส อ.เมืองยะลา พอปิกอัพทหารผ่านมาก็จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ไฟลุกไหม้ตึกแถวต้องดับไฟกันอลหม่าน ปิกอัพทหารลอยกระเด็น น.ส.พรรณี ศิรินทร์วรเวทย์ ขี่จักรยานยนต์ผ่านมาพอดี โดนปิกอัพลอยมาทับถึงแก่ความตาย ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บระงมถึง 33 คน
รถไฟสายยะลา-สุไหงโก-ลก โดนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ใส่ถังแก๊สหุงต้มระบุเป็นถังของประเทศเพื่อนบ้าน ฝังไว้กลางรางแล้วลากสายไฟเข้าป่าข้างทาง 50 เมตร พอรถไฟแล่นมาตรงนั้นก็จุดชนวนทันที รถไฟตกรางพังพินาศ ในท้องที่หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อาสาสมัคร พนากร ชุ่มแก้ว ตายคาที่ในตู้โบกี้ที่ 7 ทั้งผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 16 คน
รถไฟ 14 ขบวนต้องหยุดชะงักไม่สามารถไปถึงสุไหงโก-ลกได้ จะถือว่าเป็นการลองของผู้ว่าฯ รถไฟคนใหม่ นายประภัสร์ จงสงวน ก็ไม่ผิดกติกาอันใด
ที่ตำบลบางปอ อ.เมืองนราธิวาส คนร้ายอาละวาดฟาดฟันต้นยางพาราของชาวบ้าน 3 ราย นายดาโอ๊ะ กาเดร์ โต๊ะอิหม่าม วัย 66 ต้นยางพาราอายุ 3 ปี ล้มระเนนระนาดถึง 195 ต้น สวนยางของ น.ส.นริศรา มะสาและ ครู ร.ร.บ้านยี่งอ สวนของ นายดือราแม อูดอดือรามะ ซึ่งอยู่ติดกันรวมกันอีก 82 ต้น ไม่ต้องบอกว่าเจ้าของเขาน้ำตาตกขนาดไหน
ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ วันที่โอบามาเยือนไทย นายอับดุลเราะ รอยี อายุ 25 ปี ขี่จักรยานยนต์ นางฮาลีเมาะ รอยี อายุ 55 ปี นั่งซ้อนท้าย สองแม่ลูกเสร็จจากกรีดยางกำลังกลับบ้าน คนร้ายขี่จักรยานยนต์ไล่ตาม คนซ้อนท้ายใช้อาก้ายิงใส่สองแม่ลูก แม่ตายคาที่และลูกชายสาหัส
ไม่อยากโทษเจ้าหน้าที่ แต่ก็สงสัยว่า พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่ ถึงปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ในตัวเมือง ไม่ว่าเป้าหมายของโจรใต้มันจะเปลี่ยนไปทางไหน ประชาชนต้องรับเคราะห์ทุกครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีก
นี่คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายน 2555 เรื่องอย่างนี้โอบามาต้องรู้ว่าทำไมโจรใต้มันถึงกล้าเหิมเกริม แต่โดยมารยาทเขาคงไม่ไต่ถามนายกรัฐมนตรีของเรา ส่วน “มาดามทวาย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากเลี้ยงอาหารค่ำแก่โอบามา ก็บินไปกัมพูชา กลับมาจะพูดถึงเรื่องสถานการณ์ใต้อย่างไร ก็ต้องติดตามกันต่อไป
ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธแล้วว่า ตัวเองไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็โยนเรื่องการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ “มาดามทวาย” เป็นผู้สั่งการคนเดียว เพื่อเป็นเอกภาพของหน่วยปฏิบัติในพื้นที่
เห็นความเป็นเอกภาพของรองนายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือยัง เขาให้เกียรตินายกรัฐมนตรีเต็มพิกัด ใครจะด่าใครจะว่าก็ไปลงที่มาดามทวายคนเดียว
ภาพลักษณ์ของ “มาดามทวาย” ขณะนี้ จะเรียกว่าเธอไม่รู้อะไรเลย ก็ย่อมได้ นอกจากเรื่องของแฟชั่น กับเรื่องท่าเรือน้ำลึกทวาย ตอนไปลาวกลับมาก็มีเรื่องให้ผู้คนเมาท์กันมันปาก
ก็เรื่อง “แท้งกิ้ว ทรีไทม์” นั่นแหละ ขายขี้หน้านานาชาติ กลับจากกัมพูชาหนนี้ น่าจะมีเรื่องปล่อยไก่ให้เมาท์อีก เพราะนายกรัฐมนตรีของไทยคนนี้ “หลุดเป็นประจำ”