ยะลา - ผู้บาดเจ็บเหตุระเบิด จยย.บอมบ์กลางเมืองยะลาพุ่งเป็น 33 ราย พักรักษาตัวที่ รพ.ยะลา 10 ราย ส่วนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ จนท.เตรียมแกะรอยคนร้ายจาก CCTV หน่วยข่าวเชื่อเป็นฝีมือ “ฮาซัน มูซอดี” ร่วมมือกับ “นายสาอูดี สตาปอ”
วันนี้ (17 พ.ย.) ความคืบหน้าจากเหตุระเบิดรถจักรยานยนต์บอมบ์กลางเมืองยะลา เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมซักถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายพรศักดิ์ ลีลาเกรียงศักดิ์ เจ้าของร้านชัยเจริญอะไหล่ และนายบุญเยี่ยม ตันชัชวาล เจ้าของร้านแสงไทยโลหะกิจ ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดย พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกล่าวให้กำลังใจ
พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุก็ต้องสร้างความเข้าใจให้แก่พี่น้องที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือเยียวยาโดยเร็ว โดยเฉพาะสถาบันทางการเงินต่างๆ ก็ควรที่จะช่วยดูแล และช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ด้วย คนกลุ่มนี้ก็คงจะไม่หนีไปไหน เขาเรียกร้องให้มีวันสต็อป เซอร์วิสในการช่วยเหลือ เพื่อที่จะได้ฟื้นฟูธุรกิจ
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาระบุว่า ที่ผ่านมา เราก็มีการระวังเต็มพื้นที่แล้วแต่ก็พบว่ามีจุดอ่อน และมีช่องโหว่ให้สามารถเข้ามาทำร้ายพี่น้องประชาชนได้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ขอยอมรับจะปรับปรุงแก้ไข และต่อสู้ต่อไป ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้ลงพื้นที่ปิดล้อมบ้านเป้าหมายที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุใช้กบดาน แต่ก็ยังไม่พบเป้าหมาย ส่วนกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุนั้นสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งเส้นทางที่คนร้ายใช้กล้องสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ทั้งหมด ก็คงจะต้องตรวจสอบ และขยายผลต่อไป
มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในเบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่กลุ่มของนายฮาซัน มูซอดี แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการในพื้นที่ อ.เมือง และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มของนายสาอูดี สตาปอ มือประกอบระเบิดที่รับผิดชอบการลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.ยะหา ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายทั้ง 2 กลุ่มรวมตัวกันเพื่อปฏิบัติการในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จะนำภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบอีกครั้ง
ซึ่งในเบื้องต้น จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนหลายตัว พบว่าสามารถบันทึกภาพของกลุ่มคนร้ายที่นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันที่ประกอบระเบิดมาจอดไว้หน้าร้านแสงไทยที่เกิดเหตุ ตั้งแต่เส้นทางที่ใช้สัญจรมาจากวัดยะลาธรรมมาราม ลอดใต้สะพานรถไปผ่านหน้าสถานีรถไฟ ตรงไปถนนสิโรรส และเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสิโรรส ก่อนจะยูเทิร์นกลับมาจอดหน้าร้านแสงไทย ส่วนคนร้ายที่มารับก็ขับตามมาจากทิศทางเดียวกัน ก่อนจะจอดรับคนร้ายที่นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาก่อเหตุ และซ้อนท้ายมุ่งหน้าตรงไปยังถนนพาดรถไฟ จากนั้นเลี้ยวเข้าไปในตลาด และหายไปจากภาพ
สำหรับผู้ที่เสียชีวิตทราบชื่อแล้วคือ น.ส.พรรณี ศิรินทร์วรเวทย์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/42 หมู่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 33 ราย ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลยะลาให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลา จำนวน 10 ราย ส่วนที่เหลือให้กลับบ้านได้