รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในญี่ปุ่น ที่มีการเผยแพร่ในวันอาทิตย์ (18) ระบุ พรรคฝ่ายค้านอย่าง ลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ยังคงมีคะแนนนิยมนำหน้าพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ที่เป็นฝ่ายรัฐบาล ถือเป็นการส่งสัญญาณตอกย้ำว่า พรรคแอลดีพีที่สูญเสียอำนาจหลังแพ้การเลือกตั้งเมื่อ 3 ปีก่อน มีแนวโน้มจะเป็นฝ่ายหวนคืนสู่อำนาจได้อีกครั้ง หลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 16 ธันวาคมนี้
ผลสำรวจความคิดเห็นของ “โยมิอูริ ชิมบุง” ที่จัดทำขึ้นระหว่าง 16-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีการเผยแพร่ในวันอาทิตย์ (18) ระบุ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวญี่ปุ่นร้อยละ 26 จะลงคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคแอลดีพีในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ “สภาล่าง” ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ขณะที่ร้อยละ 13 ระบุจะลงคะแนนให้กับพรรคดีพีเจ อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์โยมิอูริพบว่า ยังมีกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 43 ที่ระบุยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้การสนับสนุนแก่พรรคการเมืองใด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ (17) ผลสำรวจของ “อาซาฮี ชิมบุง” หนังสือพิมพ์ชื่อดังอีกฉบับ ระบุว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวญี่ปุ่นราวร้อยละ 23 จะลงคะแนนให้กับพรรคแอลดีพี ส่วนอีกร้อยละ 16 ยังคงให้ความไว้วางใจในพรรคดีพีเจต่อไป
ทั้งนี้ พรรคดีพีเจซึ่งคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปได้เมื่อปี 2009 กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการปฏิรูปการเมือง การบริหารงานภาครัฐ และเศรษฐกิจของประเทศที่ตกอยู่ใต้การบริหารงานของพรรคแอลดีพีนานมากกว่าครึ่งศตวรรษ เป็นเหตุให้ทางพรรคดีพีเจต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 คนภายในระยะเวลา 3 ปีที่ก้าวขึ้นครองอำนาจ จนในที่สุดนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน คือ โยชิฮิโกะ โนดะ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ต้องประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันศุกร์ (16) ที่ผ่านมา