xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจล่าสุดชี้ พรรครัฐบาลญี่ปุ่นมีคะแนนนิยมลดต่ำสุดนับตั้งแต่นายกฯ “โนดะ” ครองอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โยชิฮิโกะ โนดะ
รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งครองอำนาจในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลแดนปลาดิบมานานกว่า 3 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ส่อเค้าหมดโอกาสหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้งหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังคะแนนนิยมของบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงชาวญี่ปุ่นที่มีต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ทำสถิติลดต่ำสุด นับตั้งแต่ที่โนดะรับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ “โยมิอูริ” ระบุว่า มีกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวญี่ปุ่นเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีแผนจะลงคะแนนให้กับพรรคดีพีเจอีก ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 25 หรือ 1 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ระบุจะหันไปลงคะแนนให้กับพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด

ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกมาในช่วงเดียวกับที่รัฐบาลของนายโนดะกำลังประสบปัญหาในการผ่านร่างกฎหมายที่จำเป็นทางด้านงบประมาณของประเทศ รวมถึงกรณีอื้อฉาวที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว หลังมีข่าวว่ารัฐมนตรีรายดังกล่าวเคยพัวพันกับเครือข่ายอาชญากรในอดีต

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของ “โยมิอูริ” ยังพบว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลนายโนดะล่าสุดได้ร่วงลงเหลือเพียงร้อยละ 19 เท่านั้น ลดฮวบลงจากการสำรวจเมื่อเดือนก่อนถึงร้อยละ 15

ด้านผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวเกียวโดระบุว่า คะแนนนิยมของประชาชนต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันได้ร่วงลงมาเหลือเพียงร้อยละ 17.7 ถือเป็นคะแนนนิยมที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่นายโนดะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว นอกจากนั้น ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดยังพบว่ามีกลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นเพียงแค่ร้อยละ 12 เท่านั้นที่ระบุจะลงคะแนนให้กับพรรคดีพีเจในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่อีกร้อยละ 27.7 ระบุจะลงคะแนนให้กับพรรคแอลดีพี

ทั้งนี้ พรรคดีพีเจซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2009 ได้เคยประกาศนโยบายหลายประการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ โดยเฉพาะการปฏิรูปเศรษฐกิจและระบบบริหารงานภาครัฐ แต่ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคดีพีเจ กลับประสบปัญหาในการบริหารงานจนต้องมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 ราย ขณะเดียวกัน รัฐบาลพรรคดีพีเจยังไม่อาจดำเนินการปฏิรูปประเทศได้ตามที่ให้คำมั่นไว้กับประชาชน ส่งผลให้สูญเสียคะแนนนิยมทางการเมืองภายในเวลาอันรวดเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น