เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี โยชิฮิโกะ โนดะ แห่งญี่ปุ่น ประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภาอาวุโสนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ โดยหวังว่าการปรับคณะรัฐมนตรีจะช่วยเพิ่มโอกาสให้พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ได้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้งในการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โคริกิ โจจิมะ วัย 65 ปี หัวหน้าฝ่ายกิจการรัฐสภาของพรรคดีพีเจ ได้รับเลือกให้เป็นผู้กุมบังเหียนกระทรวงการคลังของประเทศซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก ในเวลาที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเสี่ยงจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและปัญหาเงินเยนแข็งค่า
โจจิมะ จะเข้ามาทำหน้าที่แทนอดีตรัฐมนตรีคลัง จุน อาซูมิ ซึ่งถูกโยกไปรับตำแหน่งสำคัญในพรรคแทน
แม้มุมมองด้านนโยบายการเงินของ โจจิมะ จะยังไม่เป็นที่ทราบกัน แต่เชื่อว่าเขาผู้นี้น่าจะยอมปฏิบัติตามแผนของรัฐบาลที่จะร่วมมือกับธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นต่อสู้ปัญหาเงินฝืดและค่าเงินเยนแข็ง หลังจากที่เคยสนับสนุนการขึ้นภาษีผู้บริโภคเป็น 10% ภายในปี 2015 มาแล้ว
เคียวเฮ โมริตะ นักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นอาวุโสจากบริษัทหลักทรัพย์ บาร์เคลย์ส แคปิตอล ให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ว่า “ผมยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการเงินที่รัฐบาลจะออกมาเตือนเมื่อค่าเงินดอลลาร์ร่วงต่ำกว่า 78 เยน และพร้อมที่จะแทรกแซงเมื่อได้กำไรสูงเกินไป”
ผู้นำญี่ปุ่นยังคงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมไว้ตามเดิม แม้ว่าข้อพิพาทหมู่เกาะกับจีนจะกลับมาเป็นกระแสร้อนแรงในช่วงนี้ก็ตาม
การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของ โนดะ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกฯเมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 ซึ่งหลายฝ่ายก็มองว่า เป็นกลยุทธ์สุดท้ายที่พรรคดีพีเจจะใช้กู้คะแนนนิยมจากประชาชน ก่อนถึงวันเลือกตั้งทั่วไป
ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า พรรคฝ่ายค้าน ลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ที่เคยครองอำนาจในญี่ปุ่นมานานกว่าครึ่งศตวรรษ จะกลับมาเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งก็หมายความว่า โจจิมะ อาจจะได้นั่งเก้าอี้ขุนคลังเป็นเวลาสั้นๆเท่านั้น
โนดะ ยังยกตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ, วัฒนธรรม, กีฬา และวิทยาศาสตร์ ให้กับ มากิโกะ ทานากะ บุตรสาวอดีตนายกรัฐมนตรี คากุเอ ทานากะ ที่เคยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขั้นปกติกับจีน เมื่อปี 1972