รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า บรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแดนปลาดิบมีแนวโน้มหันไปลงคะแนนให้พรรคฝ่ายค้านหลักอย่าง พรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) มากกว่าพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ หากมีการเลือกตั้งทั่วไปในขณะนี้ ถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าชาวญี่ปุ่นเริ่มเอือมระอากับการทำหน้าที่ของผู้นำญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น
รายงานข่าวซึ่งอ้างผลสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์ชื่อดัง “อาซาฮี ชิมบุง” ระบุว่า คะแนนนิยมในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโนดะร่วงลงมาเหลือเพียงร้อยละ 22 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่ผู้นำญี่ปุ่นรายนี้เข้ามารับตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด
ผลสำรวจยังระบุว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23 จะลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคแอลดีพีในการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่าง มีเพียงร้อยละ 13 เท่านั้นที่จะเลือกผู้สมัครของพรรคดีพีเจ อย่างไรก็ดี ยังมีกลุ่มตัวอย่างอีกถึงร้อยละ 48 ที่ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจจะเลือกพรรคการเมืองใด
ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่มีการคาดการณ์ของหลายฝ่ายว่า อาจมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ก่อนที่สมาชิกสภาล่างชุดปัจจุบันจะอยู่จนครบวาระในเดือนสิงหาคม ปีหน้า โดยสมาชิกระดับแกนนำหลายรายของพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดอย่างแอลดีพีเริ่มออกมาเคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาลรีบยุบสภาโดยเร็ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีโนดะและพรรคดีพีเจดูเหมือนจะพยายามยื้ออยู่ในอำนาจต่อไปให้นานที่สุด เนื่องจากทราบดีว่ามีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หากยอมปล่อยให้มีการเลือกตั้งในช่วงนี้
ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังระบุว่า ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 41 ต้องการให้รัฐบาลยุบสภาและจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด แต่อีกร้อยละ 45 ลงความเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนจัดการเลือกตั้งในเวลานี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีโนดะซึ่งถือเป็นผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นรายที่ 6 ในรอบ 5 ปี เคยมีคะแนนนิยมพุ่งสูงถึงร้อยละ 60 เมื่อครั้งที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก่อนที่คะแนนนิยมของเขาจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือเพียงร้อยละ 22 ในการสำรวจล่าสุด
