รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - การยุบสภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎรที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นในวันศุกร์ (16) เกิดขึ้นตามความคาดหมายของสื่อหลายสำนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นในแดนปลาดิบที่ระบุตรงกันว่าพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดจะได้หวนคืนสู่อำนาจอีกครั้งหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 16 ธันวาคมนี้
การประกาศยุบสภาที่เกิดขึ้นไม่ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจเท่าใดนัก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ความนิยมของประชาชนต่อตัวนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ และพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ได้ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับคะแนนนิยมของพรรคแอลดีพีที่เพิ่มขึ้นในระยะหลัง ท่ามกลางการคาดหมายว่าแกนนำสูงสุดของพรรคแอลดีพีในขณะนี้ คือ นายชินโสะ อาเบะ วัย 58 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในช่วงปี 2006-2007 จะได้กลับมารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นอีกครั้งหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 480 ที่นั่งใน 1 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกของญี่ปุ่นในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ที่พรรคดีพีเจคว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์เหนือพรรคแอลดีพีได้เมื่อปี 2009
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าชัยชนะในการเลือกตั้งวันที่ 16 ธันวาคมนี้ของพรรคแอลดีพีคงไม่อาจช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นกับจีนและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เกี่ยวกับดินแดนพิพาททางทะเลได้มากนัก
