xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” ย้ำรีพับลิกันต้องยอม “ขึ้นภาษีคนรวย” หากจะเลี่ยง “หน้าผาการคลัง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว วานนี้(14)
เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยืนยันว่า ส.ส.รีพับลิกันจะต้องยอมรับแผนขึ้นภาษีบุคคลร่ำรวย หากต้องการให้สหรัฐฯ รอดพ้นจากวิกฤต “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff) ในสิ้นปีนี้ไปให้ได้

โอบามาเสนอให้ขยายเวลาลดหย่อนภาษีสำหรับประชากรอเมริกัน 98% ซึ่งจะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากหน้าผาการคลัง ซึ่งหมายถึงการหั่นงบประมาณลงทั้งระบบเพื่อปรับสถานะการคลังของประเทศให้เข้าสู่ภาวะสมดุล ซึ่งอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม โอบามายืนยันว่าข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านจะต้องไม่รวมถึงการลดหย่อนภาษีให้ผู้มีรายได้สูงสุดที่เป็นพลเมืองเพียง 2% ซึ่งเป็นจุดยืนของประธานาธิบดีที่รีพับลิกันยังไม่ยอมรับง่ายๆ

โอบามาชี้ว่าหากพรรครีพับลิกันยอมร่วมมือด้วย รัฐบาลจะสามารถประกาศกฎหมายได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการขึ้นภาษีอัตโนมัติที่จะมีผลบังคับทันทีในวันที่ 1 มกราคม และหลังจากนั้นเขาก็พร้อมที่จะเจรจาในระยะยาวกับฝ่ายค้านเกี่ยวกับแนวทางในการฟื้นสมดุลทางการคลังสำหรับปีหน้า

“เราถูกขีดเส้นตายที่แน่นอนไว้แล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องช่วยกันตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวในเรื่องการจ้างงาน, ภาษี และปัญหาขาดดุลงบประมาณภายในสิ้นปีนี้... อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว ผมยินดีประนีประนอม และยอมรับความคิดเห็นใหม่ๆจากทุกฝ่าย” โอบามากล่าวในงานแถลงข่าวครั้งแรก หลังได้รับเลือกตั้งเป็นผู้นำทำเนียบขาวสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โอบามายืนยันว่า การบรรลุข้อตกลงขยายช่วงเวลาลดหย่อนภาษีแก่ชนชั้นกลางที่มีรายได้ต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีให้เร็วที่สุดถือเป็นสิ่งจำเป็น

“แต่เราจะต้องไม่เอาชนชั้นกลางมาเป็นตัวประกัน เมื่ออภิปรายเรื่องลดหย่อนภาษีให้กับคนรวย” โอบามาระบุ

หน้าผาการคลังที่หลายฝ่ายเกรงว่าสหรัฐฯ จะหลีกเลี่ยงไม่พ้น หมายถึงชุดกฎหมายที่เดโมแครตและรีพับลิกันลงนามรับรองเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2011 ซึ่งกำหนดให้มีการขึ้นภาษีหลายรายการและตัดงบประมาณลงทั้งระบบโดยอัตโนมัติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 ในกรณีที่รัฐบาลและฝ่ายค้านไม่สามารถเจรจาหาวิธีที่จะฟื้นฟูสภาพการคลังของสหรัฐฯ ได้ ขณะที่มาตรการลดหย่อนภาษีที่รัฐบาลใช้กระตุ้นเศรษฐกิจก็จะหมดอายุลงไปด้วย

หากทั้งสองสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า เม็ดเงินกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์จะถูกดึงออกจากระบบเศรษฐกิจภายในปีหน้า ซึ่งหมายถึงการที่สหรัฐฯ จะต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้งหนึ่ง

จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน เสนอให้ทั้งสองฝ่ายยอมทำข้อตกลงประนีประนอมเฉพาะหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบขั้นร้ายแรงของหน้าผาการคลัง ก่อนจะมาถกกันในระยะยาวว่าด้วยแผนลดการขาดดุลงบประมาณสำหรับปี 2013 ซึ่งโอบามาก็เห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม โบห์เนอร์ยืนกรานปฏิเสธแนวคิดขึ้นภาษีคนรวย โดยขอให้รัฐบาลเพียงแต่ยกเลิกสิทธิลดหย่อนภาษีของคนกลุ่มนี้แทน ซึ่งโอบามาก็ตอกกลับว่า วิธีเช่นนี้แทบไม่มีผลใดๆต่อสภาพการคลังของสหรัฐฯ ที่ติดลบเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์มาเป็นปีที่ 4 แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น