xs
xsm
sm
md
lg

G20กระทุ้งพี่ใหญ่อเมริกา-ยุโรป สางวิกฤตการคลังคุ้มกันศก.โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ - ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติของกลุ่มจี 20เร่งรัดให้อเมริกา-ยุโรป รีบแก้ไขปัญหาความท้าทายทางการคลังที่อาจส่งผลกระทบกระเทือนความเจริญเติบโตของทั่วทั้งโลก นอกจากนั้น บรรดาผู้รับผิดชอบนโยบายการเงินการคลังของชาติเศรษฐกิจชั้นนำของโลกเหล่านี้ ยังประกาศทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจโลก ลดความผันผวนในตลาดการเงิน และสร้างงาน

การประชุม 2 วันที่จัดขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ (4) ที่กรุงเม็กซิโกซิตีคราวนี้ มุ่งเน้นประเด็นวิกฤตหนี้ยูโรโซนและ “หน้าผาการคลัง” ของสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงการที่วอชิงตันต้องลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีอย่างมหาศาลโดยอัตโนมัติในวันที่ 1 มกราคม ศกหน้า หากรัฐสภาไม่สามารถตกลงเดินในหนทางอื่นๆ กันได้ อันจะส่งผลฉุดให้เศรษฐกิจอเมริกากลับสู่ภาวะถดถอยและบ่อนทำลายการเติบโตของโลก

คำแถลงในตอนท้ายของการประชุมที่ออกมาในวันจันทร์ (5) ระบุว่า การเติบโตของโลกยังคงอยู่ในระดับพอประมาณแต่มีความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงความเป็นไปได้ที่ยุโรปจะมีความล่าช้าในการดำเนินการตามนโยบายที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ส่วนที่สหรัฐฯก็จะมีการคุมเข้มทางการคลังขั้นรุนแรงยิ่ง

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังแสดงความกังวลกับปัญหาการคลังของญี่ปุ่น ตลอดจนถึงการเติบโตชะลอตัวในบรรดาประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ และปริมาณอุปทานซึ่งลดลงเฉียบพลันในตลาดโภคภัณฑ์บางแห่ง

ขุนคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติกลุ่มจี20 ยังเรียกร้องให้ผู้ชนะศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคาร (6) เร่งบรรลุข้อตกลงกับรัฐสภาโดยเร็ว

คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวภายหลังเข้าร่วมการประชุมที่เม็กซิโกซิตีนี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯจำเป็นต้องจัดการ "หน้าผาการคลัง” อย่างเร่งด่วน พร้อมเตือนว่า มีปัจจัยความไม่แน่นอนชัดเจนไม่เฉพาะสำหรับเศรษฐกิจเมืองลุงแซม แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจโลกด้วย

คำแถลงของจี20 เองนั้นระบุว่า วอชิงตันควรปรับจังหวะในการคุมเข้มทางการคลังอย่างรอบคอบ เพื่อคงการอัดฉีดโครงการสาธารณะในระยะยาวอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการหลีกเลี่ยงการตึงตัวทางการคลังขั้นรุนแรงในปีหน้า

ทางด้าน หลุยส์ เดอ กินโดส รัฐมนตรีคลังสเปน ออกมาสำทับว่า หน้าผาทางการคลังของอเมริกาเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก

นับจากการประชุมระดับผู้นำในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาของกลุ่มจี20 ซึ่งประกอบด้วยประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าและชาติตลาดเกิดใหม่สำคัญๆ นั้น ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ลงมาอยู่ที่ 3.3% ขณะที่อัตราว่างงานในยูโรโซนพุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 11.6% ในเดือนกันยายน และการเติบโตของพวกเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ต่างพากันลดวูบลง

ในภาวะที่การเติบโตอ่อนแอลงเช่นขณะนี้ ขุนคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติกลุ่มจี20 ยังคงยืนยันคำมั่นในการลดยอดขาดดุลลงครึ่งหนึ่งภายในปลายปีหน้าสำหรับพวกประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ แต่เปิดช่องสำหรับการพลิกแพลงยืดหยุ่นว่า จังหวะการปรับฐานะการคลังให้เข้าสู่ภาวะสมดุลนั้นควรที่จะเป็นไปในทางเกื้อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย

ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากเรื่องหน้าผาการคลังของสหรัฐฯแล้ว เรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการหารือจี20 อีกครั้ง

เวย์น สวอน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า หลายประเทศที่เข้าร่วมประชุมแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า ยุโรปจำเป็นต้องขจัดความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่กำลังเป็นตัวถ่วงการเติบโตและการลงทุน

กระนั้น ยูโรโซนยังได้รับคำชมจากการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสหภาพการธนาคาร การริเริ่มกองทุนฟื้นเสถียรภาพการเงินถาวรมูลค่า 500,000 ล้านยูโร (650,000 ล้านดอลลาร์) และการเปิดตัวโครงการซื้อพันธบัตรโดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของจี20 แย้มว่า แม้ตระหนักถึงความคืบหน้าในยุโรป แต่สมาชิกจี20 ก็พากันเริ่มหมดความอดทนและเรียกร้องชัดเจนให้อียูดำเนินนโยบายทั้งหมดที่ประกาศออกมาอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์

จุดร้อนของยูโรโซน ณ วันนี้คือกรีซและสเปน โดยประเทศแรกนั้นกำลังเจรจากับสามเจ้าหนี้สำคัญคือ สหภาพยุโรป (อียู) ไอเอ็มเอฟ และอีซีบี ในการปลดล็อกเงินกู้งวดใหม่มูลค่า 31,500 ล้านดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลายภายในเดือนนี้

ขณะที่แดนกระทิงดุกำลังถูกกดดันให้ขอรับความช่วยเหลือสำหรับเศรษฐกิจทั้งระบบที่กำลังตกอยู่ในภาวะถดถอย ซึ่งดันให้อัตราว่างงานทะยานขึ้นไปอยู่ที่ 25%

อย่างไรก็ดี เดอ กินโดสยืนยันว่า ขณะนี้สเปนยังอุดหนุนตัวเองได้และไม่ต้องการแผนการฟื้นฟูจากพันธมิตรยุโรปแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น