ไอเอ็มเอฟเล็งหั่นตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในรายงานอัปเดตที่จะนำออกเผยแพร่เดือนหน้า ชี้วิกฤตยูโรโซนเป็นความเสี่ยงหลัก ขณะที่สถานการณ์ในอเมริกาเป็นภัยคุกคามสำคัญเช่นกัน ลาการ์ดระบุปัจจัยเหล่านี้ฉุดตลาดเกิดใหม่ชะลอตัวแล้ว ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการคลังกลุ่มจี20 ก็บอกว่า มาตรการกระตุ้นของแบงก์ชาติประเทศต่างๆ ยังไม่เพียงพอ โดยภาครัฐบาลต้องเพิ่มความพยายามเพื่อผลักดันการเติบโตตามที่รับปากไว้
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเมื่อวันจันทร์ (24) ว่า ไอเอ็มเอฟยังคงคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มว่าการเติบโตจะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในเดือนกรกฎาคมเล็กน้อย
ทั้งนี้ ในเดือนดังกล่าว ไอเอ็มเอฟได้ลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีหน้าอยู่ที่ 3.9% แต่คงตัวเลขสำหรับปี 2012 ไว้ที่ 3.5%
ลาการ์ดแจงว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนเป็นความเสี่ยงใหญ่สุดต่อเศรษฐกิจโลก แต่ “หน้าผาทางการคลัง” (fiscal cliff) ของสหรัฐฯ ก็ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงเช่นเดียวกัน และขณะนี้ความไม่แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่จะจัดการปัญหาใหญ่เหล่านี้ได้หรือไม่ ได้ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นๆ แล้ว
ทั้งนี้ “หน้าผาทางการคลัง” เป็นวลีที่พวกนักเศรษฐศาสตร์นำมาใช้อธิบายภาวะหดตัวทางการคลังที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในเมื่อมาตรการสำคัญๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้ให้คู่สมรส, การยกเลิกภาษีมรดก, การลดภาษีที่เก็บจากรายได้ของมนุษย์เงินเดือน กำลังจะหมดอายุลงโดยไม่มีมาตรการใหม่ๆ มาทดแทน ขณะที่มาตรการใหม่ๆ ในการเข้มงวดงบประมาณ เช่น การปรับลดงบประมาณภาครัฐระยะ 10 ปี, การลดสวัสดิการแก่ผู้ว่างงาน กำลังจะเริ่มมีผลบังคับใช้ เห็นกันว่าภาวะหดตัวทางการคลังเช่นนี้ จะส่งผลชะลออัตราเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นายใหญ่ไอเอ็มเอฟแจกแจงต่อไปว่า สำหรับเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ ก็อยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน และสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับประเทศยากจน ก็คือปัญหาราคาอาหารแพงและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีสัญญาณความสับสนเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในตะวันออกกลาง
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเมื่อวันจันทร์ (24) ว่า ไอเอ็มเอฟยังคงคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มว่าการเติบโตจะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในเดือนกรกฎาคมเล็กน้อย
ทั้งนี้ ในเดือนดังกล่าว ไอเอ็มเอฟได้ลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีหน้าอยู่ที่ 3.9% แต่คงตัวเลขสำหรับปี 2012 ไว้ที่ 3.5%
ลาการ์ดแจงว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนเป็นความเสี่ยงใหญ่สุดต่อเศรษฐกิจโลก แต่ “หน้าผาทางการคลัง” (fiscal cliff) ของสหรัฐฯ ก็ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงเช่นเดียวกัน และขณะนี้ความไม่แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่จะจัดการปัญหาใหญ่เหล่านี้ได้หรือไม่ ได้ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นๆ แล้ว
ทั้งนี้ “หน้าผาทางการคลัง” เป็นวลีที่พวกนักเศรษฐศาสตร์นำมาใช้อธิบายภาวะหดตัวทางการคลังที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในเมื่อมาตรการสำคัญๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้ให้คู่สมรส, การยกเลิกภาษีมรดก, การลดภาษีที่เก็บจากรายได้ของมนุษย์เงินเดือน กำลังจะหมดอายุลงโดยไม่มีมาตรการใหม่ๆ มาทดแทน ขณะที่มาตรการใหม่ๆ ในการเข้มงวดงบประมาณ เช่น การปรับลดงบประมาณภาครัฐระยะ 10 ปี, การลดสวัสดิการแก่ผู้ว่างงาน กำลังจะเริ่มมีผลบังคับใช้ เห็นกันว่าภาวะหดตัวทางการคลังเช่นนี้ จะส่งผลชะลออัตราเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นายใหญ่ไอเอ็มเอฟแจกแจงต่อไปว่า สำหรับเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ ก็อยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน และสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับประเทศยากจน ก็คือปัญหาราคาอาหารแพงและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีสัญญาณความสับสนเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในตะวันออกกลาง