เอเอฟพี - ยักษ์ใหญ่ “พานาโซนิค” และ “ชาร์ป” แถลงยอมรับว่าปีนี้คงจะขาดทุน ซึ่งหากนำตัวเลขของ 2 รายนี้มารวมกันก็สูงกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว สภาพการณ์เช่นนี้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่เลวร้ายของพวกบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่น รวมถึงสะท้อนให้เห็นปัญหาหนักหน่วงมากมาย ทั้งการแข่งขันกับผู้เล่นทรงพลังจากเกาหลีใต้ตลอดจน “แอปเปิล”, การแข็งค่าของเงินเยน, เศรษฐกิจโลกซบ และข้อพิพาทหมู่เกาะระหว่างโตเกียวกับปักกิ่ง
มีเพียง โซนี่ ผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชันเท่านั้น ที่เปล่งประกายความหวังอยู่บ้าง จากการแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (1) ว่าสามารถลดยอดขาดทุนสุทธิลงมาในช่วงครึ่งแรกของปีการเงินปัจจุบัน (เม.ย. 2012 - มี.ค. 2013) และสามารถรักษาคำมั่นในการฟื้นกำไรประจำปีภายหลังจากขาดทุนมาถึง 4 ปี
การประกาศของโซนี่มีขึ้นในวันเดียวกับที่ชาร์ปปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดทุนในปีการเงินนี้ขึ้นเป็นเกือบสองเท่าตัว คืออยู่ที่ 5,600 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และก่อนหน้านั้น 1 วัน พานาโซนิค ก็เพิ่งรายงานว่า อาจขาดทุนถึง 9,600 ล้านดอลลาร์ในปีการเงินปัจจุบัน
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นได้อย่างดีว่า การแข็งค่าของเงินเยน การแข่งขันดุเดือดในตลาดต่างประเทศ และข้อพิพาทเรื่องดินแดนกับจีน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กำลังกดดันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นอย่างไร
ผู้เล่นทั้งสามต่างประกาศแผนปรับโครงสร้างขนานใหญ่ที่รวมถึงการปลดพนักงานนับหมื่นคนเพื่อปกป้องงบดุลของบริษัท ซึ่งมาพร้อมข่าวร้ายจากการถูกบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือดาวน์เกรดและราคาหุ้นก็ตกวูบ
ฤดูร้อนที่ผ่านมาราคาหุ้นโซนี่ร่วงสู่ระดับต่ำกว่า 1,000 เยนเป็นครั้งแรกนับจากปี 1980 ซึ่งเป็นยุคของวอล์กแมน
ขณะเดียวกัน ชาร์ปเผยว่าอาจนำอสังหาริมทรัพย์ซึ่งรวมถึงสำนักงานใหญ่ในโอซากา เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารเพื่อนำมาต่อลมหายใจบริษัท
ด้านพานาโซนิคแถลงว่า ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับเงินปันผลในปีนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ
ทั้งนี้ ในบรรดาความท้าทายสำคัญคือ ธุรกิจทีวีที่บริษัทญี่ปุ่นถูกคู่แข่งเกาหลีใต้และไต้หวันแย่งชิงตำแหน่งผู้นำไปต่อหน้าต่อตา กระนั้น โซนี่ยังเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้ถอนตัวจากสนามนี้ แม้มีส่วนต่างกำไรบางเฉียบและราคาหุ้นตกก็ตาม
วันพฤหัสบดี มาซารุ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของโซนี่ แถลงว่าบริษัทยังหวังว่า ทีวีแบรนด์บราเวียจะถึงจุดคุ้มทุนหรือกระทั่งฟื้นกำไรภายในปีการเงินหน้า
มาซาฮิโกะ ฮาชิโมโตะ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยไดวาในโตเกียว ชี้ว่า บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นต้องทบทวน เพื่อทิ้งธุรกิจที่ไม่ทำเงิน และเดินหน้าธุรกิจที่ยังมีอนาคต
ปัจจุบัน ผู้เล่นแดนปลาดิบไม่สามารถไล่ตามคู่แข่งซึ่งรวมถึงซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทเกาหลีใต้ที่ทำกำไรได้มหาศาลและปักหลักทำคะแนนต่อเนื่องในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
มิหนำซ้ำบริษัทญี่ปุ่นยังถูกคุกคามถึงในบ้านจากไอแพดของแอปเปิลและสมาร์ทโฟนแกแล็กซี่ของซัมซุง
ฮาชิโมโตะสำทับว่า บริษัทญี่ปุ่นที่เคยเป็นที่ชื่นชมจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมจำเป็นต้องพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ใดที่ล้าหลังคู่แข่ง และต้องใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่เพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายอื่นๆ อีก ซึ่งอาจเป็นภารกิจที่ข้ามผ่านได้ยาก เป็นตันว่า ต้นทุนค่าแรงสูงในญี่ปุ่น และค่าเงินเยนแข็งเรื้อรังที่ฉุดผลกำไรจากการดันให้สินค้าออกมีราคาแพงขึ้น และบั่นทอนมูลค่ารายได้ที่ส่งกลับจากต่างแดน
นอกจากนั้น ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภัยพิบัติครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งดีมานด์ซบเซาในยุโรปซึ่งเป็นตลาดสำคัญ ยังช่วยกันฉุดผลประกอบการของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่น
สัปดาห์นี้ พานาโซนิค ชาร์ป และโซนี่ ยังชี้ปัญหาไม่พึงประสงค์อีกประการหนึ่ง นั่นคือข้อพิพาทระหว่างโตเกียวกับปักกิ่งกรณีหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ที่ญี่ปุ่นซื้อมาเป็นของรัฐเมื่อกลางเดือนกันยายน และจุดชนวนการประท้วงใหญ่ในจีน และการบอยคอตต์สินค้าจากแดนปลาดิบ
คาโตะจากโซนี่ทิ้งท้ายว่า “เราเพียงหวังว่าสถานการณ์จะสงบลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”