เอเจนซี - มิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน และคู่หูหาเสียง พอล ไรอัน ประสานเสียงโจมตีประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่ยังลังเลไม่ยอมประกาศให้จีนเป็นประเทศที่ “ปั่นค่าเงิน” (currency manipulator)
รอมนีย์ ปราศรัยต่อผู้ฟังราว 3,000 คนที่เมืองพอร์ตสมัธ มลรัฐโอไฮโอ วานนี้(13)ว่า “ผมขอชี้แจงว่า ถ้าใครโกง ใครไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการค้า เราต้องให้เขารับผิดชอบ”
“เราต่างทราบดีว่า ประธานาธิบดีมีโอกาส เคยมีโอกาส และมีหน้าที่ในวันศุกร์ที่ผ่านมา(12) ที่จะต้องประกาศว่าจีนเป็นนักปั่นค่าเงินหรือไม่” รอมนีย์ กล่าว พร้อมอธิบายว่า การปั่นค่าเงินหมายถึงการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจงใจตรึงค่าเงินให้อ่อนกว่าความเป็นจริง เพื่อให้ผู้ผลิตของตนสามารถขายสินค้าราคาถูกกว่าคู่แข่งในประเทศอื่น และด้วยเหตุนี้บริษัทสหรัฐฯจึงเสียเปรียบจีนมาโดยตลอด
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีกลับไม่เคยเรียกจีนว่า “นักปั่นค่าเงิน” ได้เสียที” รอมนีย์ ระบุ
“ท่านมีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้ในวันศุกร์(12) แต่คุณรู้ไหมพวกเขาบอกว่าอย่างไร? เขาบอกว่า เราจะไม่ประกาศอะไรทั้งสิ้นจนกว่าการเลือกตั้งจะผ่านไปก่อน”
อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์เอ่ยถึงแถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่เลื่อนกำหนดเผยรายงานนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนรอบครึ่งปีเพื่อประเมินความคืบหน้าในการปฏิรูปค่าเงินของประเทศคู่ค้าของสหรัฐออกไปจนถึงการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม จี20 ในวันที่ 4-5 พฤศจิกายนนี้ และยังปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายงานดังกล่าวก่อนถึงวันเลือกตั้ง 6 พฤศจิกายน อีกด้วย
“ผมบอกทุกท่านไว้เลยว่า วันแรกที่ผมรับตำแหน่งประธานาธิบดี ผมจะประกาศว่าจีนปั่นค่าเงิน เราต้องดึงตำแหน่งงานกลับคืนมา และทำให้การค้าเป็นไปอย่างยุติธรรม” รอมนีย์ กล่าว
ด้าน ไรอัน ซึ่งเดินทางไปปราศรัยที่มหาวิทยาลัยยังสทาวน์ มลรัฐไอไฮโอ ก็หยิบยกตัวเลขของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ (ไอทีซี) มาโจมตีพฤติกรรมเอาเปรียบคู่ค้าของจีน
“รายงานของ ไอทีซี ชี้ว่า เราเสียตำแหน่งงานไป 2 ล้านตำแหน่งเพียงเพราะจีนคอยขโมยทรัพย์สินทางปัญญา, จดสิทธิบัตร, เอาสินค้าของเราไปก๊อปปี้ขาย นี่มันไม่ถูกต้อง นี่มันโกงกันชัดๆ”
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ ระบุว่า รายงานของไอทีซีใช้คำว่า สหรัฐฯอาจสามารถ “สร้างงาน” ได้ถึง 2 ล้านตำแหน่ง มิใช่เสียงานไป 2 ล้านตำแหน่งตามที่ ไรอัน นำไปอ้าง
แม้ รอมนีย์ จะกล่าวหาว่ารัฐบาลโอบามาอ่อนข้อให้จีน แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2009 โอบามา ก็สานต่อโครงการนำร่องของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่จะช่วยป้องกันมิให้จีนขโมยเทคโนโลยีของเพนตากอนได้ วอชิงตันโพสต์ ระบุ
แดนนี แคนเนอร์ โฆษกทีมหาเสียงของ โอบามา ออกมาตอบโต้คำวิจารณ์ โดยชี้ว่า “ถ้อยคำเผ็ดร้อนของ ส.ส.ไรอัน ปิดบังความจริงไม่ได้ว่า มิตต์ รอมนีย์ ไม่มีวันจัดการความโกงของจีนได้ ถ้าดูจากประวัติก็จะทราบ”
“ขณะที่ประธานาธิบดี โอบามา ต่อสู้เพื่อคนงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ เขา(รอมนีย์)กลับบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่เลวร้ายสำหรับชาติ เขายังเข้าไปลงทุนในหลายๆบริษัทที่ทำให้ตำแหน่งงานของชาวอเมริกันไหลไปอยู่ในมือจีน รวมถึงบริษัทจีนที่เขาประณามว่าโกงด้วย”
“ผู้เชี่ยวชาญบอกแล้วว่า นโยบายภาษีของ รอมนีย์ จะสร้างงานในต่างประเทศราวๆ 800,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหนก็เห็นตรงกันว่า แผนของเขาจะทำให้เศรษฐกิจอเมริกายิ่งถดถอย และเป็นผลเสียต่อการจ้างงาน... แค่เพาเวอร์พอยท์ปกปิดความจริงไม่ได้หรอกว่า สิ่งที่ รอมนีย์ กับ ไรอัน เสนอก็แค่นโยบายที่ล้มเหลวซึ่งนำเรามาสู่วิกฤตในวันนี้ และคือสิ่งที่ทำลายความกินดีอยูดีของชนชั้นกลางตั้งแต่ต้น”
