“ดอยช์แบงก์” ติดร่างแห จ่อถูกทางการมะกันสอบ พัวพันทำธุรกรรมอิหร่าน

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “ดอยช์แบงก์ เอจี” สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งมีฐานอยู่ที่นครแฟรงก์เฟิร์ต ตกเป็นข่าวว่า เป็น 1 ใน 4 ธนาคารของยุโรปที่กำลังจะถูกสอบสวนโดยทางการสหรัฐฯ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าน้ำมันและทำธุรกรรมทางการเงินกับอิหร่าน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลเตหะรานของทางการสหรัฐฯ

บรรดาองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบทางด้านการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ, ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานอัยการประจำเขตแมนฮัตตัน จะเข้ามามีส่วนร่วมในการสอบสวนดอยช์แบงก์ และธนาคารยุโรปอีก 3 แห่ง ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยโดยแหล่งข่าวในแวดวงอัยการของสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อ

ด้าน ฟรีเดริกา บอร์กมันน์ โฆษกหญิงของดอยช์แบงก์ ออกมาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องการสอบสวนของทางการสหรัฐฯ โดยยืนยันว่าทางดอยช์แบงก์ได้ตัดสินใจยกเลิกการทำธุรกิจใหม่ หรือธุรกรรมทางการเงินใดๆ กับอิหร่าน ซีเรีย ซูดาน และเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 แล้ว

ก่อนหน้านี้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ เพิ่งแถลงเมื่อวันอังคาร (14) ที่ผ่านมาว่า ทางธนาคารบรรลุข้อตกลงยุติข้อกล่าวหาจากสหรัฐฯ กรณีซ่อนเร้นธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับอิหร่าน อันเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลอเมริกัน ด้วยการยอมรับค่าปรับจำนวน 340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,713 ล้านบาท) จากหน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารของนิวยอร์ก

โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดยินยอมให้การทำธุรกรรมของธนาคารสาขานิวยอร์กอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์เป็นเวลา 2 ปี และจะจัดตั้งผู้ตรวจสอบอิสระมาดูแลงานให้เป็นไปตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ หลังก่อนหน้านี้ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาร่วมมือกับเตหะราน รวมถึงปกปิดการทำธุรกรรมลับอย่างเป็นระบบมูลค่าถึง 250,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.9 ล้านล้านบาท) ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษ