เอเอฟพี - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ถูกผู้คุมกฎของมลรัฐนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ (6) กล่าวหาว่าลอบทำธุรกรรมโอนเงินอย่างผิดกฎหมายกับอิหร่านมานานเกือบ 1 ทศวรรษ รวมเป็นเงินอย่างน้อย 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผู้คุมกฎของมลรัฐนิวยอร์กกล่าวหาธนาคารระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอังกฤษแห่งนี้ว่า “กระทำผิดอย่างเป็นระบบ” ซึ่งอาจเปิดทางให้กลุ่มก่อการร้ายและพวกอาชญากรเข้าถึงระบบธนาคารของสหรัฐฯ
สำนักงานบริการการเงิน (ดีเอฟเอส) ของมลรัฐนิวยอร์กขู่ปรับเงินธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และมีความเป็นไปได้ว่าอาจถึงขั้นระงับใบอนุญาตดำเนินกิจการภายในมลรัฐอันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการเงินของอเมริกา หากว่าธนาคารแห่งนี้ไม่สามารถชี้แจงเกี่ยวกับการโอนเงินเหล่านั้นซึ่งถูกกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิหร่าน
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้รับคำสั่งให้เข้าพบสำนักงานบริการการเงินในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหากระทำละเมิดกฎหมายและแสดงให้เห็นว่าทำไม พวกเขาถึงไม่ควรถูกยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการในมลรัฐนิวยอร์ก
ผู้คุมกฎของมลรัฐนิวยอร์กระบุว่าเกือบ 10 ปีแล้วที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด วางอุบายร่วมกับรัฐบาลอิหร่านและปกปิดการโอนเงินอย่างลับๆจากการตรวจสอบของผู้คุมกฎราว 60,000 ครั้ง รวมแล้วเป็นอย่างต่ำ 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้รับค่าบริการหลายร้อยล้านดอลลาร์เป็นการตอบแทน ในนั้นเป็นการโอนเงินที่เกี่ยวข้องกับธนาคารต่างๆ ที่มีรัฐบาลอิหร่านเป็นเจ้าของ ตลอดจนธนาคารกลางของเตหะรานด้วย
นอกจากนี้สำนักงานบริการการเงินบอกด้วยว่าทางสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้ปลอมแปลงเอกสารและหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ขณะที่การโอนเงินดังกล่าวก่อความอ่อนแอต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ ในการเล่นงานพวกก่อการร้าย พ่อค้าอาวุธ ขบวนการค้ายาเสพติดและรัฐบาลคอร์รัปชัน รวมถึงกีดกันผู้สืบสวนตามกฎหมายเข้าถึงข้อมูลอันสำคัญสำหรับใช้ติดตามวิธีการของเหล่าอาชญากรในกิจกรรมทางอาชญากรรมต่างๆ
ทั้งนี้ทางผู้คุมกฎของมลรัฐนิวยอร์กบอกว่าจะดำเนินการสืบสวนธนาคารแห่งนี้อีกว่าได้ลอบทำธุรกรรมโอนเงินผิดกฎหมายกับลิเบีย พม่า และซูดาน ด้วยหรือไม่ ขณะที่ประเทศเหล่านี้ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ