xs
xsm
sm
md
lg

รมว.กลาโหมมะกันย้ำ กองกำลัง รบ.ซีเรียต้องยืนหยัดทำหน้าที่ต่อแม้ “อัสซาด” ถูกโค่น หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอิรัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลียน เพเนตตา
รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เลียน เพเนตตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยเมื่อวันจันทร์ (30) โดยย้ำกองกำลังของรัฐบาลซีเรียจะต้องรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้ได้ ถึงแม้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียจะต้องถูกกดดันให้ก้าวลงจากอำนาจ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ พร้อมเตือนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในสงครามอิรักจะต้องไม่เกิดซ้ำอีกในซีเรีย

เพเนตตาเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ขณะเขาเดินทางเยือนประเทศตูนิเซียทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา โดยนายใหญ่แห่งเพนตากอนย้ำว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาเสถียรภาพในซีเรียเอาไว้ให้ได้หลังจากที่ประธานาธิบดีอัสซาดมีอันต้องลงจากอำนาจและวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าประสงค์ดังกล่าวคือการที่กองกำลังตำรวจและทหาร รวมถึงกองกำลังด้านความมั่นคงของรัฐบาลซีเรียจะต้องรวมตัวกันและยืนหยัดดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศเอาไว้ให้ได้ จนกว่าจะเกิด “การเปลี่ยนผ่าน” ไปสู่การมีรัฐบาลชุดใหม่ตามครรลองของประชาธิปไตย

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ วัย 74 ปี ซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้วระบุรัฐบาลอเมริกันสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้เคยทำ “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” เอาไว้ ด้วยการยุบเลิกกองกำลังความมั่นคงของอิรักแทบจะทันทีทันใด หลังจากที่กองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ เป็นฝ่ายมีชัยในการบุกอิรักเมื่อปี ค.ศ. 2003 ซึ่งกลายเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองที่นองเลือดในอิรักตามมา

“เราไม่ควรปล่อยให้ความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอิรัก ย้อนกลับมาเกิดในซีเรียอีก หลังจากที่อัสซาดสิ้นอำนาจ เราจำเป็นต้องให้กองกำลังความมั่นคงของอัสซาดได้ทำหน้าที่ของพวกเขาต่อไป เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายในประเทศ” เพเนตตากล่าว

เพเนตตาซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ระหว่างปี 2009-2011 ยังกล่าวแสดงความชื่นชมการทำหน้าที่ของกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลซีเรีย ที่ยังคงยืนหยัดปกป้องคลังเก็บอาวุธเคมีของประเทศเอาไว้ได้อย่างแข็งขัน พร้อมระบุว่า หากกองกำลังเหล่านี้พากันละทิ้งหน้าที่ของตนหลังจากที่อัสซาดสิ้นอำนาจ จะทำให้เกิดหายนะครั้งเลวร้ายตามมาเนื่องจากบรรดากลุ่มหัวรุนแรงและสมาชิกเครือข่ายก่อการร้ายต่างๆ จะสามารถเข้าถึงอาวุธร้ายแรงดังกล่าวได้โดยปราศจากการควบคุม และจะทำให้ผู้คนทั่วทั้งโลกต้องตกอยู่ในอันตราย
กำลังโหลดความคิดเห็น