xs
xsm
sm
md
lg

อดีตนายกฯ โรมาเนีย “ยิงตัวตาย” หลังศาลสูงไม่รับอุทธรณ์โทษจำคุก 2 ปีฐานคอร์รัปชัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อดีตนายกรัฐมนตรี เอเดรียน นาสตาเซ แห่งโรมาเนีย ซึ่งพยายามฆ่าตัวตายหนีโทษจำคุก 2 ปีฐานยักยอกเงินหลวง 1.5 ล้านยูโร เพื่อใช้หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2004
เอเอฟพี - อดีตนายกรัฐมนตรีเอเดรียน นาสตาเซ ของโรมาเนีย รับการผ่าตัดฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดี(21) หลังจากเขาพยายามใช้ปืนยิงตัวตาย ไม่กี่ชั่วโมงภายหลังที่ศาลสูงสุดปฏิเสธไม่รับคำอุทธรณ์คดีคอร์รัปชันของเขา ซึ่งส่งผลให้อดีตผู้นำโรมาเนียรายนี้ต้องรับโทษจำคุก 2 ปี

แพทย์ที่รักษาเขาระบุว่า นาสตาเซมีอาการทรงตัวภายหลังการผ่าตัดที่มีขึ้น 1 วันหลังจากเขายิงตัวเองที่บริเวณลำคอ

“การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว คนไข้นับว่าโชคดี เพราะไม่ได้รับบาดเจ็บที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต” อิโออัน ลัสคาร์ 1 ในทีมศัลยแพทย์ บอกกับผู้สื่อข่าว

อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 61 ปีผู้นี้ใช้ปืนยิงตัวเอง เมื่อตำรวจ 2 คนเดินทางไปยังบ้านพักของเขา เพื่อนำตัวเขาไปยังเรือนจำ หลังจากที่ศาลสูงสุดมีคำตัดสินไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นว่า ไม่รับคำอุทธรณ์คดีที่นาสตาเซถูกพิพากษาว่ามีความผิดจริงในข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น โดยที่สหภาพยุโรป(อียู)ให้ความสนใจติดตามการพิจารณาคดีนี้อย่างใกล้ชิด

ตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนหลายราย ตอนที่ตำรวจไปถึงบ้านของเขา นาสตาเชขอเวลาไปหยิบหนังสือบางเล่ม และเดินออกจากห้องไป จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ยิงตัวเอง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

นาสตาเซ ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลพรรคโซเชียล เดโมแครต ในระหว่างปี 2000-2004 ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐานยักย้ายเงินทุนจำนวน 1.5 ล้านยูโร เพื่อใช้หาเสียงให้ตัวเขาได้รับเลือกตั้งอีกสมัยหนึ่งในปี 2004

อัยการระบุว่า สถาบันภาครัฐและบริษัทเอกชนหลายแห่ง ถูกกดดันให้ต้องเข้าร่วมการแข่งขันในด้านการก่อสร้างในปี 2004 ซึ่งค่าสมัครทั้งหมดถูกยักย้ายถ่ายโอนไปตามบัญชีธนาคารต่างๆ ก่อนจะกลายไปเป็นทุนจัดพิมพ์โปสเตอร์หาเสียงให้กับนาสตาเซ

นาสตาเช ซึ่งยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกๆ ข้อหามาโดยตลอด ระบุว่าเขาตกเป็นเหยื่อของ “การไต่สวนพิจารณาคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง” โดยผู้ที่คอยบงการให้เล่นงานเขาก็คือ ประธานาธิบดี ตราอิอัน บาเซสคู ผู้เป็นศัตรูทางการเมืองคนสำคัญของเขา

จากการที่ศาลสูงสุดของโรมาเนีย ปฏิเสธไม่รับคำอุทธรณ์ความผิดของเขา ปรากฏว่าไรับการยกย่องสดุดีจากพวกนักวิเคราะห์ ซึ่งมองว่านี่คือจุดพลิกผันครั้งใหญ่ในประเทศซึ่งถูกคณะกรรมาธิการยุโรป อันเป็นองค์กรบริหารของอียู วิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้งว่า ไม่ค่อยเต็มใจนำตัวเจ้าหน้าที่ระดับท็อปของตนที่กระทำความผิดไปให้ศาลพิจารณาลงโทษ

“นี่คือจุดพลิกผันซึ่งแสดงให้เห็นว่า การปฏิรูปต่างๆ กำลังเริ่มต้นผลิดอกออกผลแล้ว” ลอรา สเตฟาน ผู้เชี่ยวชาญของอหน่วยงานคลังสมอง “เอ็กซ์เพิร์ต ฟอรัม” กล่าวกับเอเอฟพี

ส่วน คริสเตียน ทูดอร์ ปอปสคู เขียนลงในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ชื่อ กันดุล ยกย่องคำตัดสินของศาลสูงสุดคราวนี้ว่า เป็นการตัดสิน “ครั้งประวัติศาสตร์” พร้อมกับกล่าวด้วยว่า มาถึงตอนนี้ “พวกนักการเมืองจะต้องคิดทบทวนก่อนที่พวกเขาจะยักยอกเงินไปใช้”

ขณะที่ เอคาเตรินา แอนโดรเนสคู พันธมิตรใกล้ชิดของนาสตาเช และเป็นอดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการ บอกว่า “คำตัดสินนี้ส่งผลกระทบเหมือนกับแผ่นดินไหว”

นาสตาเช ซึ่งกลายเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอาวุโสที่สุดในโรมาเนีย ที่ถูกตัดสินลงโทษนับตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ถูกระบุว่าเป็นผู้อาวุโสที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำแก่ วิกตอร์ ปอนตา นายกรัฐมนตรีโรมาเนียคนปัจจุบัน

ระบบตุลาการของโรมาเนีย ซึ่งได้รับความเสียหายไปมากจากช่วงเวลาหลายสิบปีแห่งการปกครองแบบเผด็จการของระบอบคอมมิวนิสต์ และการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้ถูกอียูจับตาตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเรื่อยมา นับตั้งแต่ที่โรมาเนียเข้าร่วมเป็นสมาชิกของอียูในปี 2007


กำลังโหลดความคิดเห็น