ชาวอียิปต์ใช้สิทธิ์อุ่นหนาฝาคั่งเลือกผู้นำเสรีครั้งประวัติศาสตร์

เอเจนซีส์ - ชาวอียิปต์ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเสรีครั้งแรกในวันพุธ(23) ในการเลือกตั้งที่มีนักการเมืองสายอิสลาม ปะทะกับคนใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค อย่างไรก็ดี แม้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์อย่างคึกคัก แต่คาดว่าจะไม่มีผู้สมัครรายใดชนะเด็ดขาด ทำให้ต้องมีการหย่อนบัตรรอบตัดสินกันในเดือนหน้า

การแข่งขันนี้ถือเป็นมิติใหม่สำหรับอียิปต์ หลังจากที่การเลือกตั้งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาภายใต้การปกครองของ “ฟาโรห์” ซึ่งหมายถึงมูบารัคนั้น มีประชาชนไปใช้สิทธิ์บางตา มิหนำซ้ำผลการเลือกตั้งยังสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เมื่อวันพุธ (23) ชาวอียิปต์มากมายจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงราว 50 ล้านคน ออกไปเข้าคิวหน้าคูหาตั้งแต่ก่อนที่จะเปิดให้มีการหย่อนบัตรในเวลา 8.00 น. (13.00 น. ตามเวลาไทย) เพื่อเลือกผู้นำที่จะมารับสืบทอดอำนาจต่อจากบรรดานายพลที่บริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน นับจากวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป

ชาวอียิปต์มากมายบอกว่าไม่มั่นใจว่าจะกาบัตรเลือกใคร แต่ยืนยันจะไปใช้สิทธิ์แน่นอน เนื่องจากนับเป็นครั้งแรกที่พวกเขามีสิทธิ์เลือกผู้นำอย่างแท้จริง และยังเป็นครั้งแรกที่จะได้เลือกผู้นำที่เป็นคนธรรมดา จากตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาที่ประเทศอยู่ภายใต้การปกครองของฟาโรห์ สุลต่าน และกองทัพ

ภายใต้กฎหมายการเลือกตั้งของอียิปต์ พรรคการเมืองต่างๆ มีเวลาหาเสียง 3 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ (19) และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัดให้มีการโต้วาทีระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีถ่ายทอดทางทีวีแบบเดียวกับที่อเมริกา ขณะที่หนังสือพิมพ์ขอสัมภาษณ์ผู้สมัครและลงโฆษณานโยบายหาเสียง ป้ายหาเสียงมีให้เห็นทั่วไปบนท้องถนน

ทั้งนี้ ไม่มีผู้สมัครรายใดจากทั้งหมด 12 คน ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้คะแนนเกินครึ่งในการเลือกตั้งในคราวนี้ซึ่งมีระยะเวลา 2 วัน คือในวันพุธและพฤหัสบดี(24) ดังนั้น แนวโน้มจึงน่าจะมีการเลือกตั้งรอบสองระหว่างผู้สมัครที่ได้คะแนนมากที่สุด 2 คนในเดือนหน้า

กระนั้น ใครก็ตามที่ชนะจะต้องรับภาระใหญ่หลวงในการจัดการปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคง และความท้าทายในการรวมประเทศที่แตกแยกจากการลุกฮือของประชาชนที่บางครั้งถึงขั้นนองเลือด

โลกตะวันตกที่กังวลกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง และอิสราเอลที่วิตกกับสนธิสัญญาสันติภาพ 33 ปีกับอียิปต์ กำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองสายอิสลามจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกหรือไม่ห ลังจากกวาดที่นั่งส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ด้านเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซียจ้องตาไม่กระพริบเช่นกันว่าใครจะได้เป็นประมุขของประเทศพี่ใหญ่ในภูมิภาคแห่งนี้ หลังจากพันธมิตรอันเก่าแก่ยาวนานอย่างมูบารัค ถูกพลังประชาชนโค่นล้ม ในขณะที่ราชวงศ์อนุรักษนิยมในหลายประเทศก็รอดพ้นจากกระแสการลุกฮือในอาหรับ หรือ “อาหรับ สปริง” อย่างเฉียดฉิว

โมฮัมหมัด มูร์ซี ผู้สมัครจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (มุสลิม บราเธอร์ฮูด) พยายามคลายความกังวลด้วยการประกาศระหว่างหาเสียงวันสุดท้ายว่า “เราจะไม่ส่งออกกระแสการปฏิวัติไปยังประเทศอื่น”

คู่แข่งสำคัญของมูร์ซีคือ อับเดล โมนีอิม อาบูล โฟตูห์ อดีตสมาชิกของภราดรภาพมุสลิมเหมือนกัน แต่ประกาศตนเป็นทางเลือกแห่งฉันทามติระหว่างผู้สนับสนุนกลุ่มต่างๆ อันกว้างขวาง

นอกจากนี้ในบรรดาผู้สมัครที่เป็นตัวเก็งสำคัญยังรวมถึงอัมร์ มุสซา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและประธานสันนิบาตอาหรับ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักการเมืองและนักการทูตมากประสบการณ์ แต่ขณะเดียวกันก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนของมูบารัค เช่นเดียวกับอาเหม็ด ชาฟิก นายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายในยุคมูบารัค

การไม่พอใจของประชาชนอาจเข้าทาง ฮัมดีน ซาบาฮี นักการเมืองฝ่ายซ้ายที่ได้แรงบันดาลใจจากกามาล อับเดล นัสเซอร์ ผู้นำ “ขบวนการนายทหารอิสระ” ที่โค่นบังลังก์กษัตริย์ฟารุคในปี 1952 และก่อตั้งระบอบใหม่ที่เปิดทางให้พวกทหารมาเป็นประธานาธิบดีของอียิปต์ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา

สำหรับมูบารัควัย 84 ปี อาจติดตามการเลือกตั้งจากห้องพักในโรงพยาบาลทหารชานเมืองไคโร ขณะที่รอคอยคำตัดสินในวันที่ 2 เดือนหน้าในคดีสังหารผู้ประท้วง 850 คนระหว่างการลุกฮือของประชาชนเมื่อปีที่แล้ว และคดีทุจริตคอร์รัปชัน