เอเจนซีส์ - คณะกรรมการการเลือกตั้งอียิปต์เลื่อนการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบตัดสิน อ้างต้องพิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้สมัครทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ยอมระบุว่าพร้อมรายงานผลเมื่อใด ขณะที่สถานการณ์การเมืองยิ่งตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จากความไม่แน่นอนว่าใครจะได้บริหารประเทศต่อจากมูบารัค อดีตผู้นำที่นอนโคมาอยู่ในโรงพยาบาล
การเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์รอบสองคราวนี้ เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างโมฮัมเหม็ด มอร์ซี จากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม กับอาเหม็ด ชาฟิก อดีตผู้บัญชาการกองทัพอากาศและนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายในยุคอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค โดยทั้งคู่ต่างอ้างชัยชนะและยื่นอุทธรณ์กล่าวหากันและกัน
คืนวันพุธที่ผ่านมา (2) คณะกรรมการการเลือกตั้งออกแถลงการณ์เลื่อนการประกาศผลการนับคะแนนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 16-17 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าต้องการเวลาในการพิจารณาคำอุทธรณ์ของทั้งสองฝ่าย และก่อนหน้านั้น ฮาเท็ม บากาโต เลขาธิการคณะกรรมการฯ เผยว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งได้เมื่อใด
ขณะเดียวกัน กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเตรียมเผชิญหน้ากับสภาทหารสูงสุด (เอสซีเอเอฟ) ที่ออกกฤษฎีกาเพิ่มอำนาจให้ตนเอง รวมทั้งริดรอนอำนาจว่าที่ประธานาธิบดี ภายใต้กฤษฎีกาที่ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (17) เอสซีเอเอฟจะเป็นผู้สั่งการด้านความมั่นคงของประเทศ ส่วนประธานาธิบดีบริหารจัดการกิจการภายในประเทศ
เอสซีเอเอฟยังจะมีอำนาจคัดค้านการร่างรัฐธรรมนูญถาวร รวมทั้งจับกุมพลเรือนที่ถูกกล่าวหาว่าก่อรัฐประหาร
นอกจากนี้ เอสซีเอเอฟยังยึดอำนาจคืนจากรัฐสภาที่พวกอิสลามิสต์ครองเสียงข้างมาก หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มภราดรภาพมุสลิมยืนยันว่า รัฐสภายังคงมีอำนาจนิติบัญญัติ และประกาศร่วมกับมวลชนต่อต้านการดำเนินการของเอสซีเอเอฟ
คืนวันอังคาร (19) กลุ่มภราดรภาพมุสลิมร่วมการประท้วงใหญ่ที่จัตุรัสตอห์รีร์ ในกรุงไคโร โดยมีผู้ชุมนุมกว่า 15,000 คน
หนังสือพิมพ์อัล-อาห์รามของทางการ ระบุว่าอียิปต์กำลังเผชิญช่วง 48 ชั่วโมงอันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์
อนึ่ง ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสุขภาพของมูบารัค เนื่องจากมีรายงานข่าวออกมาหลายกระแส หลังจากที่มูบารัคมีอาการโรคหัวใจกำเริบกระทั่งต้องนำส่งโรงพยาบาลเมื่อวันอังคาร
แหล่งข่าวทางการแพทย์เผยว่า อดีตผู้นำเผด็จการวัย 84 ปีอยู่ในอาการโคมาและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่สำนักข่าวมีนาของทางการรายงานว่า มูบารัคได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตแล้วในทางการแพทย์ เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นและไม่ขานรับต่อการช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้า
มูบารัคถูกควบคุมตัวในเรือนจำไคโรตั้งแต่วันที่ 2 เดือนนี้ หลังจากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากการเกี่ยวข้องกับการสังหารผู้ประท้วงระหว่างการชุมนุมต่อต้านเมื่อปีที่แล้วที่นำไปสู่การโค่นอำนาจอดีตผู้นำเผด็จการผู้นี้
สุขภาพของมูบารัคทรุดโทรมลงนับจากนั้น แพทย์ต้องช่วยกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าให้ 2 ครั้งเมื่อต้นเดือน และมีรายงานว่าเขามีอาการซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง และหอบ