เอเอฟพี - คณะทหารผู้ปกครองอียิปต์ ประกาศเคอร์ฟิวยามวิกาล รอบๆ กระทรวงกลาโหม เมื่อวันศุกร์ (4) หลังเกิดเหตุปะทะดุเดือดระหว่างกำลังพล กับผู้ประท้วงต่อต้านทหาร ความรุนแรงที่เลี้ยวเข้าสู่การนองเลือด โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บมากถึง 296 คน
นายพล มุคตาร์ อัล-มุลเลาะห์ สมาชิกสภาทหารสูงสุด (เอสซีเอเอฟ) แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ ว่า “เคอร์ฟิวบังคับใช้ที่จตุรัสอับบาซีเยาะห์ รอบๆ กระทรวงกลาโหมและถนนต่างๆโดยรอบ”
ก่อนหน้ามีคำแถลงผู้สื่อข่าวเอเอฟพี รายงานว่า สารวัตรทหารที่เข้าควบคุมฝูงชน ได้เดินเท้าและใช้ยานพาหนะของกองทัพไล่ล่าผู้ชุมนุมไปตามข้างทางของท้องถนนสายต่างๆ ยิงปืนขึ้นท้องฟ้าท่ามกลางความโกลาหล
แหล่งข่าวทางกองทัพ ระบุว่า ปฏิบัติการไล่ล่าของทหารได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านอับบาซีเยาะห์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสามารถจับกุมบุคคลที่พวกเขาเรียกว่าพวกก่อกวนได้ 170 คน
ผู้ประท้วงอิสลามิสต์ และกลุ่มแยกศาสนาออกจากการเมืองหลายพันคน รวมตัวกันที่อับบาสซิเยาะห์ โดยบางส่วนเดินขบวนมาจากจตุรัสตอห์รีร์ เพื่อประณามสภาทหารสูงสุดที่ยึดเกาะอำนาจไว้ตั้งแต่ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ถูกประชาชนลุกฮือโค่นล้มเมื่อปีที่แล้ว โดยมีรั้วลวดหนามกั้นระหว่างพวกเขากับทหาร
ทว่า ปฏิบัติการไล่ล่าเริ่มต้นขึ้น เมื่อผู้ประท้วงบางส่วนขว้างปาก้อนหินใส่สารวัตรทหาร จุดชนวนให้ทหารฉีดน้ำ ยิงแก๊สน้ำตา และขว้างหินกลับไป เพื่อเป็นการตอบโต้
หลังจากการปะทะผู้ประท้วงที่ได้รับบาดเจ็บเลือดนองถูกสหายเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลำเลียงขึ้นรถมอเตอร์ไบค์นำส่งโรงพยาบาล ในเวลาเดียวกับที่ฉุกเฉินก็รุดไปยังสถานที่ชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านกองทัพ ขณะที่สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐรายงานว่ามีทหารได้รับบาดเจ็บหลายนายด้วยเช่นกัน
เดิมทีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เผยในถ้อยแถลงว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุความรุนแรงที่ลุกลามนี้กว่าครึ่งร้อย “ระหว่างการปะทะที่อับบาสซิเยาะห์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 59 คน และในนั้นมีอยู่ 5 รายที่ต้องนำส่งโรงพยาบาล”
อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รายหนึ่ง เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 296 คนในนั้น มีอยู่ 131 คนที่ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาล ตามหลังเหตุนองเลือดคราวนี้ ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ออกมายืนยันตัวเลขดังกล่าวและบอกว่ามีทหารเสียชีวิตด้วยเช่นกัน
เหตุประท้วงนี้มีขึ้นเพียง 3 สัปดาห์ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในยุคหลังปฏิวัติ ซึ่งทางคณะทหารผู้ปกครองประเทศให้สัญญาว่าจะส่งมอบอำนาจสู่การปกครองโดยพลเรือน อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงเกรงว่า จะมีการโกงเลือกตั้งเข้าข้างผู้สมัครที่ทหารให้การสนับสนุน ขณะที่หลายคนก็ไม่เชื่อมั่นว่าเอสซีเอเอฟจะส่งมอบอำนาจแก่ระบอบพลเรือนโดยสมบูรณ์
การประท้วงเมื่อวันศุกร์ (4) มีขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เพิ่งเกิดเหตุปะทะนองเลือดในย่านอับบาสซิเยาะห์ แห่งนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คนในเหตุการณ์ที่พวกก่อกวนบุกเข้าโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุน นายฮาเซม อาบู อิสมาอิล ที่ถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีใกล้กระทรวงกลาโหม