ยูเอ็นเตือน วิกฤตน้ำโลกยิ่งเลวร้าย-ไร้บทลงโทษจริงจัง

เอเอฟพี - สหประชาชาติเผยรายงานการพัฒนาน้ำโลก เตือนวิกฤตน้ำในหลายพื้นที่ทั่วโลกเป็นปัญหาเรื้อรัง และไร้มาตรการลงโทษต้นเหตุน้ำเสียอย่างเด็ดขาด ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาเลวร้ายลง ในขณะที่ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนสภาพอากาศรุนแรงขึ้น

รายงานของยูเอ็นฉบับนี้ระบุว่า ปัญหาที่น่ากลัวมากมายรออยู่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาน้ำสะอาดถูกสุขอนามัย ให้แก่คนยากจน และให้เพียงพอต่อประชากรโลกที่จะเพิ่มจาก 7 พันล้าน เป็น 9 พันล้านในปี 2050 ขณะที่ต้องรับมือกับผลกระทบของภาวะโลกร้อน

"แรงกดดันเกี่ยวกับน้ำสะอาดเพิ่มขึ้น จากความต้องการในภาคเกษตร การผลิตอาหาร และการใช้พลังงาน ที่ขยายตัว ไปสู่มลภาวะ และความอ่อนแอในการบริหารจัดการน้ำ" บัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็นกล่าวในรายงาน

"การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นภัยจริงจัง ที่กำลังรุนแรงขึ้น หากปราศจากการวางแผน และการปรับตัวที่ดี จะทำให้ประชากรหลายพันล้านคนเสี่ยงที่จะหิวโหย เป็นโรค ขาดแคลนพลังงาน และอดอยาก" บันเสริม

รายงานการพัฒนาทรัพยากรน้ำโลกดังกล่าวจะออกมาทุกๆ 3 ปี ในช่วงการประชุม เวิลด์ วอเทอร์ ฟอรัม ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 6 วัน ในเมืองมาร์กเซย์ ฝรั่งเศส และเริ่มหารือกันในวันจันทร์ (12)

รายงานฉบับที่ 4 นี้เขียนขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับน้ำ เศรษฐศาสตร์ และปัญหาสังคม ด้วยความช่วยเหลือขององค์กรยูเนสโก โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นคู่มืออ้างอิงสำหรับทรัพยากรน้ำของโลก

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังชี้ให้เห็นถึงการแข่งกันใช้น้ำของชาวเมือง เกษตรกร และระบบนิเวศ รวมถึงระหว่างประเทศกันเองด้วย จากการประเมินพบว่า 148 ประเทศมีแหล่งน้ำสากลอยู่ในดินแดนของตนเอง และอีก 21 ประเทศตั้งอยู่ภายในแหล่งน้ำเหล่านั้น ทว่า ไม่มีความเสี่ยงใหญ่โต ที่จะเกิดสงครามแย่งชิงแหล่งน้ำ