เดอะซัน/เทเลกราฟ - ทารกรายหนึ่งฟื้นจากความตายราวปาฏิหาริย์ หลังเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอดจากภาวะหลอดเลือดสายสะดือห้อยต่ำจนทำให้ไม่มีเลือดในตัวสักหยด ขณะที่แพทย์ให้คำจำกัดความว่าเป็นการฟื้นคืนชีพที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน
เคธี คุณแม่ของหนูน้อยโอลิเวอร์ มอร์แกน ถูกนำตัวโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนขณะที่ตั้งครรภ์ได้ 37 สัปดาห์หลังมีอาการตกเลือด และต่อมาเธอถึงกับช็อคเมื่อมารู้ว่าเลือดที่ไหลออกมาซึ่งเดิมทีคิดว่าเป็นเลือดของเธอเองนั้น แท้จริงแล้วเป็นเลือดของทารกในครรภ์ อันเกิดจากภาวะซึ่งเกิดขึ้นได้ยากมากที่เรียกว่า "Vasa Previa" หรือหลอดเลือดสายสะดือห้อยต่ำ
ด้วยภาวะVasa Previa ทำให้หลอดเลือดสายสะดือของหนูน้อยโอลิเวอร์ อยู่ในตำแหน่งตรงกับปากมดลูกของนางเคธี ผู้เป็นมารดาพอดี และทารกที่อยู่ในภาวะครรภ์เช่นนี้จะเสียชีวิตแทบทันที่หากคลอดออกมาโดยวิธีธรรมชาติ เนื่องจากการเบ่งทำให้หลอดเลือดสายสะดือฉีกขาดจนทำให้เด็กเสียเลือดจนถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีของโอลิเวอร์นั้นนับเป็นปาฏิหาริย์อย่างยิ่งยวดที่เขารอดชีวิตมาได้
โอลิเวอร์ คลอดออกมาด้วยน้ำหนักตัว 2,749 กรัม ทว่ากลับเป็นเพียงร่างกายที่อ่อนปวกเปียก ไม่มีเลือด หัวใจไม่เต้นและดูเหมือนทารกที่เสียชีวิตแล้ว แต่ทีมแพทย์ยังไม่ละความพยายาม พวกเขาตัดสินใจให้ออกซิเจน รวมทั้งทำการนวดหัวใจ และถ่ายเลือดผ่านทางหลอดเลือดสายสะดือที่ฉีกขาดนั่นเอง จนในที่สุดก็สามารถเรียกชีวิตน้อย ๆ ของเขากลับคืนมาจากมัจจุราชได้ หลังจากพ่อหนูหยุดหายใจเป็นเวลานานถึง 25 นาที
จากการที่หยุดหายไปนานเกือบครึ่งชั่วโมง จึงมีความกังวลว่าออกซิเจนอาจไปเลี้ยงสมองหนูน้อยไม่เพียงพอ คณะแพทย์จึงเร่งนำตัว โอลิเวอร์ ไปยังตู้ควบคุมอุณหภูมิ พันเขาด้วยผ้าห่อที่ปรับอุณหภูมิร่างกายเขาให้ลดลงไปที่ 32 องศาเซลเซียส เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ผิวน้อยลง และในทางกลับกันจะไปหล่อเลี้ยงยังสมองและหัวใจของเขาแทน เพื่อให้ซ่อมแซมและฟื้นฟูส่วนที่ถูกทำลายไปขณะที่ไม่หายใจ
หลังจากโอลิเวอร์อยู่ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิเช่นนี้จนถึงวันที่ 3 แพทย์ก็ค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิขึ้นวันละครึ่งองศา จนถึงวันที่ 11 อุณหภูมิร่างกายก็กลับขึ้นมาสู่ปกติที่ 37 องศา และหนูน้อยโอลิเวอร์ ก็แข็งแรงดีจนสามารถกลับบ้านเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตที่แท้จริงและได้พบกับ แจ็ค พี่ชายวัย 7 ขวบของเขา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้หนูน้อยโอลิเวอร์มีอายุ 15 เดือนและสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี