รมว.กลาโหมสหรัฐฯยืนยันไม่ลดจำนวน “เรือบรรทุกเครื่องบิน” แม้ถูกตัดงบ

เอเอฟพี - แผนตัดงบรายจ่ายกระทรวงกลาโหมจะไม่กระทบต่อกองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ซึ่งจะถูกใช้งานต่อไปทั้ง 11 ลำ ลีออน เพเนตตา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้(21)

“เรือบรรทุกเครื่องบินมีบทบาทสำคัญยิ่งในกองทัพสหรัฐฯ ไม่เฉพาะในวันนี้ แต่รวมถึงวันข้างหน้าด้วย มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้กองทัพปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่ว, ยืดหยุ่น และรวดเร็ว ทั้งยังสามารถโจมตีศัตรูได้ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก” เพเนตตา กล่าวต่อนาวิกโยธินราว 1,700 นาย

“ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและพวกเราทุกคนในกระทรวงกลาโหมจึงสรุปว่า มีความจำเป็นต้องรักษากองเรือบรรทุกเครื่องบินไว้ให้เต็มศักยภาพ และหมายความว่า เราจะใช้งานเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 11 ลำต่อไป” เพเนตตา กล่าว ท่ามกลางเสียงเชียร์จากนายทหารในโรงเก็บเครื่องบินบนเรือลำหนึ่ง

แผนลดงบประมาณของทำเนียบขาวมีผลให้เพนตากอนต้องตัดรายจ่ายลงราว 487,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในระยะ 10 ปีข้างหน้า

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์เริ่มถกเถียงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษากองเรือบรรทุกเครื่องบิน ขณะที่ เพเนตตา ต้องประกาศนโยบายรัดเข็มขัดกองทัพในอนาคตอันใกล้

เพเนตตา อธิบายว่า กองเรือดังกล่าวซึ่งแต่ละลำสามารถบรรทุกเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ได้ถึง 80 ลำ เป็นหัวใจสำคัญของแผนปฏิบัติการในแปซิฟิกและตะวันออกกลาง แต่ก็ยอมรับว่า กองทัพเรือจะต้องถูกหั่นค่าใช้จ่ายลงบ้าง

เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส เอ็นเทอร์ไพรส์ ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งรัฐจอร์เจีย จะปลดประจำการในสิ้นปีนี้ หลังใช้งานมานานถึง 51 ปี จากนั้นกองทัพสหรัฐฯจะเหลือเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใช้งานได้เพียง 10 ลำ ก่อนที่เรือ ยูเอสเอส เจอรัลด์ ฟอร์ด จะต่อสำเร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯเผยด้วยว่า เรือยูเอสเอส เอ็นเทอร์ไพรส์ เตรียมมุ่งหน้าไปยังตะวันออกกลางในเดือนมีนาคมนี้ และจะแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งอิหร่านข่มขู่ว่าจะปิดหากถูกตะวันตกคว่ำบาตรด้วย

“เราจะแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ” เพเนตตา ระบุ พร้อมเสริมว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน และ ยูเอสเอส อบราฮัม ลินคอล์น ก็ประจำการอยู่ในอ่าวเปอร์เซียเรียบร้อยแล้ว

“แน่นอนว่า เราพร้อมรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว... เราจะปฏิบัติงานร่วมกับประชาคมโลก และจะดำเนินการคว่ำบาตรพวกเขา(อิหร่าน)”

“เราจะส่งสารที่ชัดเจนนี้ต่อไป ซึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องเตรียมพร้อม เราต้องแข็งแกร่ง และต้องมีบทบาทในตะวันออกกลางต่อไป” เพเนตตา กล่าว